สิวที่หลัง ปัญหาหนักอกหนักใจของใครหลายคน สิวที่หลังใครว่าไม่สำคัญ ต้องดูแลให้เหมือนคำที่ว่า ”เห็นหลังแล้วอยากเห็นหน้า” ตามมาดูไอเทมกำจัดสิวที่หลัง ที่แอดนำมาฝากกันค่ะ สิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาความสะอาด สิวจะได้ไม่มาก่อกวนใจแล้วจ้า
ต้นเหตุ ‘สิวที่หลัง’
ก่อนจะข้ามขั้นตอนไปที่การรักษารอยสิวที่หลัง เราควรจะมารู้จักถึงสาเหตุกันก่อนว่าอะไรบ้างที่เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวที่หลัง เพราะถ้าไม่มีสิวขึ้นแต่แรก สาวๆ ก็ไม่ต้องมานั่งรักษารอยสิวที่หลังกัน หรือแม้แต่สาวๆ ที่มีสิวที่หลังแล้ว ก็จะได้หลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดสิวซ้ำได้ โดยสาเหตุหลักๆ ของการเกิดสิวที่หลังมาจาก 6 สาเหตุคือ
1. ฮอร์โมน
เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจากวัยเด็กสู่วัยรุ่น หรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงมีประจำเดือน หรือตั้งครรภ์นอกจากจะเกิดสิวบนใบหน้าแล้ว ยังส่งผลให้เกิดสิวที่หลังได้อีกด้วย
2. กรรมพันธุ์
หากคนในครอบครัวเคยประสบปัญญาสิวระดับรุนแรงมาก่อนหลายๆ คน ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าการเกิดสิวอาจจะอยู่ในกรรมพันธุ์ของสาวๆ ก็เป็นได้
3. เหงื่อ
เหงื่อและสิ่งสกปรกก็อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งของสิวที่หลังได้ โดยเฉพาะสาวๆ ที่ชอบใส่เสื้อผ้าพอดีตัวมากๆ หรือเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ยาก อาจทำให้เกิดการเสียดสี และอบเหงื่อซึ่งเป็นแหล่งเพาะแบคทีเรียชั้นดี ต้นเหตุของการเกิดสิวที่หลัง
4. อาหาร
จากการวิจัยพบว่าคนที่ชอบทานแป้ง และน้ำตาลมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาสิวได้มากขึ้น ไม่ว่าจะสิวบนใบหน้าหรือสิวที่หลัง เพราะนั่นคือการเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด ต้นเหตุของสิวนั่นเอง
5. ยาบางชนิด
ยาบางชนิดอาจจะทำให้เกิดเอฟเฟกต์กับร่างกายอย่างเลี่ยงไม่ได้ หรือไม่ใช่ทุกคนจะเกิดเอฟเฟกต์เดียวกันเสมอไป แต่ก็มียาหลายๆชนิดที่อาจทำให้เกิดสิวที่หลังได้อย่างเช่นยารักษาอาการซึมเศร้า เป็นต้น
6. ความเครียด
ความเครียดทำให้เกิดผลกระทบทั้งกับร่างกายและจิตใจเป็นอย่างมาก และความเครียดก็ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยอ้อมที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวที่หลังด้วยเช่นเดียวกัน
7. การเสียดสี
บางครั้งการสวมเสื้อผ้าที่รัดหรือพอดีตัวมากจนเกินไป จะทำให้เสื้อผ้าเกิดการเสียดสีกับผิวหนังได้ง่าย รวมไปถึงการสะพายกระเป้ด้วย นอกจากเกิดการเสียดสี ยังอาจจะมีสิ่งสกปรก หรือแบคทีเรียอาศัยอยู่ เมื่อเจอกับเหงื่อและความมันที่หลังอยู่ก่อนแล้ว เลยอาจจะทำให้เกิดสิวที่หลังขึ้นได้
8. ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และเครื่องสำอาง
ผลิตภัณฑ์บางตัวอาจมีส่วนผสมของน้ำมันหรือมีส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน เลยเป็นสาเหตุให้เกิดสิวที่หลังได้ด้วย แนะนำให้เลือกใช้เป็นผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เนื้อบางเบา เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดการอุดตัน
9. สิ่งสกปรกจากสิ่งที่สัมผัสกับหลัง
เช่น ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม และผ้าเช็ดตัว ฯลฯ หากไม่ได้ทำความสะอาดเป็นประจำจะทำให้เกิดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกสะสมอยู่ ทำให้เกิดสิวขึ้นที่หลังได้ นอกจากนั้นความมันจากเส้นผมที่ไม่ได้สระ เมื่อเส้นผมสัมผัสกับหลัง ก็สามารถทำให้เกิดสิวที่หลังขึ้นมาได้ด้วย
ชนิดของสิวที่หลัง
1. สิวอุดตันหัวขาว (Whiteheads)
สิวอุดตันหัวขาว (Whiteheads) หรือสิวอุดตันหัวปิด มีลักษณะเป็นสิวขนาดเล็ก มีหัวสีขาวไม่สามารถเห็นได้จากภายนอก แต่ถ้าสัมผัสจะรู้สึกถึงตุ่มนูนตรงใต้ผิวหนัง สาเหตุเกิดจากการอุดตันของเชื้อแบคทีเรีย ต่อมไขมัน และเคราตินที่เกาะตัวภายในรูขุมขน
2. สิวอุดตันหัวดำ (Blackheads)
สิวอุดตันหัวดำ (Blackheads) หรือสิวอุดตันหัวเปิด มีลักษณะเป็นก้อนไขมันแข็ง ๆ สามารถมองเห็นได้จากภายนอก เริ่มต้นหัวสิวจะเป็นสีขาวเหลือง แต่เมื่อหัวสิวเจอกับอากาศและสิ่งสกปรกไปสักระยะหนึ่ง หัวสิวจะกลายเป็นสีดำ เกิดได้จากการอุดตันของเคราตินและไขมันบริเวณชั้นผิวบน
3. สิวตุ่มแดง (Papule)
สิวตุ่มแดง เป็นประเภทของสิวอักเสบที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดง ไม่มีหัวหนองบริเวณใต้ชั้นของผิวหนัง เมื่อสัมผัสจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนและการติดเชื้อจากแบคทีเรียที่มีการเจริญมากเกินจนร่างกายกระตุ้นการอักเสบ
4. สิวหัวหนอง (Pustule)
สิวหัวหนอง เป็นสิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มสีแดงบริเวณฐานและตรงกลางมีจุดสีขาวเหลือง เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนและการติดเชื้อจากแบคทีเรียที่มีการเจริญมากเกินจนร่างกายกระตุ้นการอักเสบ และสิวหัวหนองต้องมีการติดเชื้อไปสักระยะจนเกิดหนองใต้ชั้นผิวหนัง แต่ไม่ควรรักษาสิวหัวหนองด้วยการบีบหรือกดเอง เพราะอาจทำให้เกิดรอยสิวที่หลัง และมีการอักเสบมากกว่าเดิมได้
5. สิวตุ่มแดงขนาดใหญ่ (Nodule)
สิวตุ่มแดงขนาดใหญ่ เป็นสิวอักเสบที่มีความรุนแรงมาก มีลักษณะเป็นไตขนาดใหญ่ใต้ชั้นผิวหนัง เมื่อสัมผัสจะรู้สึกเจ็บปวดมาก และจะไม่มีหัวหรือหนอง เกิดมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่ลุกลามไปยังชั้นใต้ผิวหนัง ที่ทำให้มีการอักเสบรุนแรงกว่าสิวตุ่มแดงและสิวหัวหนอง
6. สิวหัวช้าง (Nodulocystic ance หรือ Sever Nodular acne)
สิวหัวช้างถือเป็นสิวอักเสบที่มีความรุนแรงมากที่สุด มีลักษณะเป็นตุ่มขนาดใหญ่ที่มีความอ่อนนุ่มเหมือนมีของเหลวอยู่ข้างใน เมื่อสัมผัสจะมีความเจ็บปวดมากแต่สิวประเภทนี้จะไม่มีหัวหนอง ซึ่งสิวหัวช้างรักษาได้ยากกว่าสิวชนิดอื่น ๆ และมีโอกาสเกิดรอยแผลเป็นหรือหลุมสิว เพราะเกิดจากการอักเสบรุนแรงที่ชั้นผิวหนังแท้
รู้สาเหตุและวิธีหลบเลี่ยงไม่ให้เกิดสิวที่หลังกันไปแล้ว แต่ถ้าหากเกิดสิวที่หลังไปแล้ว และกำลังทิ้งรอยสิวน่ากวนใจเอาไว้ สิวที่หลังรักษายังไง จะมีวิธีได้บ้างที่สามารถรักษาสิวที่หลังได้ ‘วัตสัน’ เลยจัดไอเทมดูแลกำจัดสิวที่หลังมาฝาก ตามไปดูกันค่ะ
10 ไอเทมรักษาสิวที่หลัง เห็นหลังแล้วอยากเห็นหน้า ช้อปได้ที่วัตสัน
1. DERMEDY Better Back Acne Spray
ใช้สำหรับผู้มีปัญหาสิวแบบสเปรย์ เพิ่มความมั่นใจให้คุณหมดกังวลเรื่องปัญหาสิวที่หลัง เพียงแค่ฉีดลงบนหลังที่เป็นสิว มีTea tree oil ยับยั้งแบคทีเรียสาเหตุการเกิดสิว ใบบัวบก + ว่านหางจระเข้ ลดรอยแดงจากการอักเสบและบวมแดงของสิว มีซาลิไซลิก แอซิด ลดการอุดตันของไขมันใต้ผิว Witch Hazel ช่วยสมานผิวและกระชับรูขุมขน มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ แต่ไม่มีน้ำหอม ซิลิโคน พาราเบน เรียกว่าใช้ง่าย เหมาะกับคนมีสิวที่หลัง
- ขนาด 100 มล.
- ราคา 229 บาท
2. Oxe’Cure Body Acne Spray
สเปรย์กำจัดสิวขวดเขียวใช้ที่หลังตัวนี้ ขึ้นชื่อลือชาว่าใช้ลดสิวตัวร้ายที่แผ่นหลังได้ดีเชียว เวลาฉีดที่หลังจะได้ฟีลเย็นๆ จิ๊ดๆที่หลัง ยิ่งใครที่เป็นพวกสิวอักเสบจะสัมผัสได้ถึงความจิ๊ดอย่างมาก ช่วยขจัดสิว และ มีสารสกัดจากธรรมชาติ ช่วยปกป้องผิว และลดรอยดำจากสิว และเค้ายังใช้ฉีดสิวได้ทั้งตัวเลย ใครที่มีสิวส่วนอื่นๆอย่าง สิวที่หน้าอก ลำคอ แขน ก็ใช้เจ้าตัวนี้ฉีดได้ค่ะ
- ขนาด 50 มล.
- ราคา 255 บาท
3. Oxe’cure Sulfur Soap
สำหรับใครที่มีสิวสะสมที่แผ่นหลัง อาจเกิดจากการล้างทำความสะอาดแผ่นหลังได้ไม่ดีพอ ต้องเลือกใช้สบู่ซัลเฟอร์สำหรับคนเป็นสิว ช่วยบำรุงผิวและลดรอยสิว พร้อมป้องกันการเกิดสิวซ้ำ อุดมด้วยแร่ซัลเฟอร์ ช่วยทำความสะอาดผิวได้อย่างล้ำลึก ลดการสะสมของแบคทีเรีย เหมาะกับผิวที่มีปัญหาสิวที่หลัง รอยสิว ลดความมันส่วนเกิน รูขุมขนอุดตัน เพื่อป้องการปัญหากลิ่นตัวและการเกิดซ้ำของสิว สบู่ก้อนเขียวลดสิวตัวนี้ปังมาก
- ขนาด 100 กรัม
- ราคา 155 บาท
4. Looqskin Clear Acne Soap
คนที่เป็นสิวที่หลังอาจเกิดจากการอุดตันของผิว ขอแนะนำสบู่น้องเขียวก้อนนี้เลยค่ะ ที่เข้าทำความสะอาดหมดจรดขจัดสิ่งสกปรกได้อย่างล้ำลึก ด้วยส่วนผสมจาก Tea Tree oil ทั้งยังช่วยลดการอักเสบและการอุดตันของสิว เติมความชุ่มชื้นไม่ทำลายผิวขณะทำความสะอาดด้วยว่านหางจระเข้ พร้อมทั้งสารสกัดจากเปลือกมังคุด ช่วยให้รอยแดง รอยดำจางลงและช่วยลดความคล้ำของสีผิวให้กระจ่างใสขึ้น
- ขนาด 100 กรัม
- ราคา 299 บาท
5. OldRock Acne Spra
สเปรย์กำจัดสิวที่ใช้ได้ทั้งใบหน้า และยังใช้ฉีดที่แผ่นหลังเพื่อกำจัดสิวได้อีกด้วย เค้าช่วยลดอาการอักเสบของสิว ลดความมัน ให้ผิวเย็นสดชื่น ปราศจาก BHA ไม่ทำให้ระคายเคือง อ่อนโยนต่อผิว ไม่ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน
- ขนาด 15 มล.
- ราคา 129 บาท
6. ZiiiT Advanced Powder Lotion
ZiiiT P-Lotion มีการปรับโฉมและสูตรใหม่เป็น ZiiiT Advanced Powder Lotion ที่มี Salicylic Acid 1% ช่วยจัดการปัญหาสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า ช่วยลดเชื้อแบคทีเรีย ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกจากผิว ลดโอกาสในการเกิดสิวใหม่ได้อีกด้วย อีกส่วนผสมสำคัญ คือ Centella Asiatica ช่วยเรื่องผิวที่อักเสบ ลดรอยดำ รอยแดงที่เกิดจาก ช่วยรักษาได้ทั้งสิวที่หลังและรอยสิวเลยทีเดียว ที่สำคัญแป้งน้ำทาสิวสูตรนี้ไม่มีส่วนผสมที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองอย่าง Paraben, Fragrance และ Silicone
- ขนาด 40 มล.
- ราคา 139 บาท
7. Bennett Bar Soap vitamin C and vitamin E
สิวที่หลังส่วนหนึ่งมาจากความมันและการอุดตันที่แผ่นหลัง และบางคนอาจละเลยการทำความสะอาดผิวหลังไป ใช้สบู่เบนเนทก้อนส้มตัวนี้ หลังใช้คือลดความมันได้ดีมาก ทำให้สิวแห้งไวขึ้น เหมาะมาก ๆ กับคนที่เป็นสิวที่หลัง หมั่นใช้ตอนอาบน้ำ ผิวจะดูใสขึ้นด้วยนะเอ้อ
- ขนาด 130 กรัม
- ราคา 49 บาท
8. Kokliang White Pearl Herbal Soap
แผ่นหลังเนียนใสสะอาด มีชัยไปแล้วกว่าครึ่ง สบู่ก้อนนี้เหมาะมากกับคนที่ผิวหมองคล้ำง่ายและยังเป็นสิวที่หลังอีกด้วย สบู่อาบน้ำบำรุงผิว เพิร์ล ไวท์เทนนิ่ง จากไข่มุก ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอจากแสงแดดและมลภาวะให้ขาวกระจ่างใส ผิวหลังเนียน ลดความมันกรุบๆ
- ขนาด 90 กรัม
- ราคา 35 บาท
9. Watsons Brightening Milk Body Scrub
ผิวหลังก็ต้องหมั่นสครับเพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปบ้างค่ะ ด้วยสครับขัดผิวกาย จากเกลือธรรมชาติของวัตสันตัวนี้ ช่วยในการขจัดเซลล์ผิวชั้นนอกที่เสื่อมสภาพ และสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจด ให้ผิวแลดูเนียนกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ เนื้อสครับคือมีความหอมน้ำนม ละมุนผิวสุดๆ
- ขนาด 250 กรัม
- ราคา 129 บาท
10. A BONNE’ Moisturizing Silky Salt Scrub Tomato and Milk
อีกสครับขัดผิวที่เราขอแนะนำ เกลือขัดผิวสูตรพิเศษ ผสานหน้าที่ทั้งผลัดเซลล์ผิวและบำรุงผิวในหนึ่งเดียว มอบผิวกระจ่างใสแลดูสุขภาพดีและเนียนนุ่มน่าสัมผัสทันทีที่ใช้ ตัวนี้ใช้สครับขัดผิวบริเวณหลัง เนื้อสครับเค้าไม่บาดผิวด้วยนะ แต่ควรใช้หลังจากที่สิวแห้งไปแ้ล้วเพื่อขจัดรอยดำรอยแดงต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
- ขนาด 350 กรัม
- ราคา 59 บาท
วิธีรักษาสิวที่หลังและป้องกันไม่ให้สิวเกิดขึ้นซ้ำ
1. เปลี่ยนวิธีการรับประทานอาหาร
เรื่องของการกินอาหารก็มีความสำคัญ เพราะอาหารบางอย่างอาจจะกระตุ้นให้เกิดสิวได้ อย่างเช่น อาหารที่มีโซเดียม อาหารแปรรูป อาหารกระป๋อง และของหวานน้ำตาลสูง อาหารประเภทขนมปัง เบเกอรี่ ที่มีกลูเตน ผลิตภัณฑ์จากนมวัว
อาหารเหล่านี้มีสารที่เข้าไปกระตุ้นให้เกิดสิวอักเสบได้ง่าย จึงควรเลี่ยงเอาไว้เพื่อป้องกันการเกิดสิว และเปลี่ยนมาทานอาหารที่มีประโยชน์ให้สมดุลกัน เน้นเลือกทานอาหารที่ช่วยในเรื่องของการต้านการอักเสบ อย่างเช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 สารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามิน เพื่อเสริมการป้องกันตามธรรมชาติของผิว
2. มาสก์ผิว
แผ่นหลังเป็นบริเวณหนึ่งในร่างกายที่มือเราเอื้อมไปถึงยาก อาจจะมีส่วนทำให้ทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึง จึงอาจจะทำให้เกิดสิ่งอุดตันหลงเหลืออยู่และอุดตันจนเกิดเป็นสิวที่หลังขึ้นมาได้ การมาส์กผิวก็เป็นหนึ่งในวิธีรักษาสิวที่หลัง ช่วยดูแลผิวที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น มีสมดุลที่ดี
และมาส์กผิวบางตัว อย่างเช่น มาสก์โคลนยังมีคุณสมบัติช่วยดูดซับสิ่งสกปรกตกค้าง ดูดซับน้ำมันส่วนเกินบนผิวออกไป ลดปัญหาการเกิดสิวไปได้ด้วยนั่นเอง ลองใช้มาสก์โคลนมาสก์ผิวบริเวณหลัง ทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด มาส์กโคลนควบคุมความมัน และยังช่วยให้ผิวกระชับได้อีกด้วย
3. เลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่เป็นสิว
มือของเราหยิบจับหลายสิ่งสารพัดในแต่ละวัน เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีเชื้อโรคหรือเชื้อแบคทีเรียเกาะติดอยู่บนมือ และเมื่อนำมือที่ไม่สะอาดไปสัมผัสบริเวณที่เป็นสิว เลยมีความเสี่ยงทำให้สิวเกิดการอักเสบและติดเชื้อจากแบคทีเรียได้มากขึ้น และอาจจะเพิ่มความรุนแรงของสิวที่หลังมากขึ้นไปด้วย จึงควรเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่เป็นสิวเอาไว้ให้ดี
4. ใช้โทนเนอร์เช็ดหลังอาบน้ำ
การใช้สบู่อาบน้ำอาจจะทำให้ผิวสูญเสียสมดุลไปบ้าง โทนเนอร์จะเป็นตัวช่วยปกป้องสมดุลผิว ให้ผิวชุ่มชื้นมีสุขภาพดี นอกจากนั้นโทนเนอร์บางตัวที่มีสารช่วยผลัดเซลล์ผิว จะมีส่วนช่วยลดความมันส่วนเกินบนผิว ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ลดการอุดตันของเซลล์ผิวเก่า หรือสิ่งตกค้างที่เป็นสาเหตุการเกิดสิวออกไปได้ด้วย
ใครที่สงสัยว่าสิวที่หลังรักษายังไง หลังจากอาบน้ำเสร็จลองใช้โทนเนอร์เช็ดหลังให้ทั่ว แนะนำให้เลือกเป็นโทนเนอร์ที่มีความอ่อนโยน เพื่อไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และระคายเคือง
5. ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับรักษาสิวที่หลัง
ผิวเป็นสิวค่อนข้างจะมีความ sensitive จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับปัญหาผิว หรือเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับรักษาสิวที่หลังโดยเฉพาะ เช่น ยารักษาสิวที่หลังชนิดทา โดยแต้มในบริเวณหัวสิวอย่างสม่ำเสมอ หรือจะเป็นแป้งน้ำ ผลิตภัณฑ์ช่วยรักษาสิว ลดสิวอักเสบ สิวอุดตัน หรือตุ่มสิว ที่ค่อนข้างปลอดภัยและใช้ได้ต่อเนื่องเพื่อให้สิวที่หลังแห้งและหลุดไปเอง
6. สวมเสื้อผ้าที่ไม่รัดจนเกินไป
สาเหตุหนึ่งและอาจจะเป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดสิวที่หลังขึ้นได้ ก็คือการสวมเสื้อผ้าที่รัดแน่น หรือพอดีตัวจนเกินไป จนทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างเนื้อผ้ากับผิว นอกจากนั้นการสวมเสื้อผ้ารัด ๆ จะทำให้ไม่มีพื้นที่ระบายอากาศ ทำให้เหงื่อหรือสิ่งสกปรกสะสมอยู่บริเวณนั้นเยอะกว่าเดิม
วิธีรักษาสิวที่หลังวิธีนี้จึงควรเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย เพื่อระบายอากาศ ไม่เกิดการเสียดสี และไม่เกิดการสะสมของเชื้อโรคด้วย
7. งดใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่รุนแรง
ผลิตภัณฑ์บางตัวอาจจะไม่เหมาะกับผิวเป็นสิว และอาจจะทำให้เกิดสิวมากขึ้นด้วย เช่น สบู่ที่เคลมว่าต้านเชื้อแบคทีเรีย ยาสมานแผล หรือการสครับขัดผิว ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ผิวและสิวของเกิดการอักเสบได้ แนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม ฯลฯ จะดีกว่า
8. รักษาความสะอาด
อย่างที่บอกไปว่าเหงื่อและสิ่งสกปรกตกค้าง เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผิวเกิดการอุดตัน และทำให้เกิดสิวที่หลังขึ้นได้ จึงควรรักษาความสะอาด รีบอาบน้ำหลังจากออกกำลังกาย หรือเจอกับฝุ่นมลภาวะมาก ๆ เพื่อลดการหมักหมมของแบคทีเรีย และหมั่นทำความสะอาดของใช้ที่สัมผัสกับหลัง เช่น ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ผ้าเช็ดตัว ฯลฯ เป็นประจำ เพื่อลดสิ่งสกปรกอุดตันบนผิว
9. หลีกเลี่ยงการสะพายกระเป๋าเป้
การใช้กระเป๋าจะทำให้เกิดการเสียดสีของเป้กับผิวหนัง ในช่วงที่หลังเป็นสิวรุนแรง ลองเปลี่ยนมาใช้กระเป๋าถือแทน และเลี่ยงการสะพายเป้ หรือใช้สิ่งของเสียดสีกับผิวด้านหลังไปก่อน เพราะการเสียดสีจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง และอักเสบได้ง่ายขึ้น ทำให้รักษาสิวที่หลังได้ยากขึ้นด้วย
10. ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและเครื่องสำอางที่ปราศจากน้ำมัน
เมื่อมีความมันส่วนเกินบริเวณหลังมากอาจจะทำให้ผิวเกิดอุดตัน และเป็นสิวขึ้นมาได้ ลองเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (oil-free) หรือผลิตภัณฑ์ประเภท Non – Comedogenic เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดภาวะรูขุมขนอุดตันได้ จะช่วยไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคือง ช่วยลดการอุดตันที่เป็นสาเหตุของสิวไปได้ด้วย
จบไปแล้วนะคะ สำหรับใครที่มีปัญหาสิวที่หลังรวมไปถึงวิธีรักษาสิวที่หลัง ลองนำไอเดียที่เรานำมาฝากกันดูค่ะ และสามารถหาไอเทมกำจัดสิวที่หลังได้ที่วัตสันค่ะ แล้วกลับมาพบกันใหม่คอนเทนต์หน้าค่า
ข้อมูลอ้างอิง
7 วิธีรักษาสิวที่หลัง แบบฉบับหมอผิวหนังแนะนำ https://bslclinic.co.th/knowledge-tips/7-ways-treat-acne-on-the-back/
สิวที่หลัง เกิดจากอะไร รักษาสิวที่หลังยังไง ไม่ให้กลับมาเป็นอีก https://www.eucerin.co.th/about-skin/derms-articles/acne-on-back?srsltid=AfmBOoq6iDeds6DBqbbfVvgGrcjVnBwzdolrwo76ggbocrmCB7vfGUl0
คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ
- แจกไอเดียเล็บ คริสต์มาส เปลี่ยนลุคให้ดูสดใส พร้อมเฉิดฉาย
- โทนเนอร์คืออะไร จำเป็นไหม และใช้ตอนไหนดี
- 10 ลายเล็บเจลมือขาว ขับผิว ช่วยให้นิ้วขาว ทําให้มือสว่าง
- โพรไบโอติกส์ (Probiotics) และพรีไบโอติกส์ (Prebiotics) คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร
- เหตุผลที่คุณควรเลือกมาส์กชีทที่พัฒนาสูตรโดยแพทย์ผิวหนังเกาหลี