หลายคนที่อยู่ในวงการออกกำลังกาย หรือสาย Healthy อยู่ในช่วงดูแลสุขภาพ ต้องรู้จักหรือคุ้นเคยได้ยินชื่อ แอลคาร์นิทีน L-carnitine กันมาบ้าง แต่หลายคนอาจยังไม่รู้อย่างแท้จริงว่า แอลคาร์นิทีนมีประโยชน์และดีต่อสุขภาพของเรายังไง บทความนี้วัตสันเลยอยากชวนเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับ แอลคาร์นิทีน L-carnitine ให้มากขึ้น แอลคาร์นิทีนเป็นประโยชน์ต่อร่างกายยังไงบ้าง ลองตามไปดูกันเลย
L-carnitine (แอลคาร์นิทีน) คืออะไร?
แอลคาร์นิทีน (L-Carnitine) เป็นสารที่ร่างกายสามารถสังเคราะห์เองได้ที่ตับและไตแล้วจึงนำไปเก็บที่กล้ามเนื้อ ซึ่งแอลคาร์นิทีนประกอบด้วย กรดอะมิโนไลซีน (Lysine) และเมทไทโอนีน (Methionine) มีหน้าที่ลำเลียงกรดไขมันไปยังลำไส้ เพื่อใช้เป็นพลังงานในร่างกาย โดยปกติแล้วร่างกายสามารถผลิตแอลคาร์นิทีนได้เอง หรือได้จากการรับประทานอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ปลา ผลิตภัณฑ์จากนม อะโวคาโด และถั่วเหลือง ซึ่งคนที่ชอบทานมังสวิรัติหรือทานอาหารประเภทนี้จะไม่ขาดแอลคาร์นิทีน
ปัจจุบันแอลคาร์นิทีนเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เนื่องจากมีส่วนเร่งการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อจากการอักเสบ ช่วยเพิ่มความทนทานต่อการออกกำลังกาย ลดการสะสมไขมันและเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย จึงมีการนำแอลคาร์นิทีนมาใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหารมากขึ้น
L-carnitine (แอลคาร์นิทีน) มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?
1. ดึงไขมันมาเผาผลาญให้เป็นพลังงาน
แอลคาร์นิทีน (L-Carnitine) มีคุณสมบัติในการลำเลียงกรดไขมันเข้าสู่เซลล์ในร่างกายเพื่อทำการเผาผลาญไขมัน การเสริมแอลคาร์นิทีนเข้าไป จึงเป็นการช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน ลดการสะสมของไขมัน และส่งผลถึงการลดน้ำหนักได้ดีมากขึ้น
2. ช่วยเสริมความจำ
แอลคาร์นิทีน (L-Carnitine) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระให้กับเนื้อสมอง นอกจากช่วยเสริมสร้างความจำแล้ว ยังช่วยป้องกันเซลล์สมองจากการทำลายของอนุมูลอิสระ ป้องกันอัลไซเมอร์ ช่วยการทำงานของระบบประสาท ป้องกันการทำลายของเยื่อหุ้มเซลล์ประสาทอีกด้วย
3. แก้ปัญหาผู้ชายที่มีบุตรยาก
หลายคนอาจประสบปัญหามีลูกยาก อันเนื่องมาจากคุณผู้ชายที่อาจจะมีสเปิร์มน้อยหรือทว่าไม่แข็งแรงต่อการผสมพันธุ์ทำให้เกิดภาวะมีลูกยาก ซึ่งแอลคาร์นิทีน มีสรรพคุณที่จะทำให้สเปิร์มแข็งแรงและมีจำนวนมากขึ้น
4. ช่วยเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน
โดยปกติแล้วร่างกายจะสามารถผลิต แอลคาร์นิทีน ได้เองบริเวณตับของเรานั้นเอง เป็นการสังเคราะห์ของกรดอะมิโน และจะเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนเจ้าไขมันให้กลายเป็นพลังงานในร่างกายของเรา
5. เสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แก่นักกีฬา
ในหมู่ของนักกีฬาหรือคนที่รักการออกกำลังกาย ต้องทราบถึงคุณสมบัติของ แอลคาร์นิทีน ที่เป็นที่นิยมในหมู่ของนักกีฬาเป็นอย่างมาก ในเรื่องของการสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงยิ่งขึ้น หากร่างกายได้รับการกระตุ้นที่มากเพียงพอ ร่างกายก็จะสามารถดึงไขมันและไตรกลีเซอไรด์ออกมาใช้ และทำให้ร่างกายสามารถลดไขมันคอเรสเตอรอลลงได้ และเปลี่ยนเป็นกล้ามเนื้อในที่สุด
6. ระบบหัวใจและหลอดเลือดแข็งแรงดีขึ้น
ในแอลคาร์นิทีนจะมีกรดอะมิโนจำเป็นที่เป็นโครงสร้างสำคัญที่ดีต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ ยังมีรายงานวิจัยถึงแอลคาร์นิทีนว่ายังช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจล้มเหลวและหยุดเต้น ได้อีกด้วย
ผลข้างเคียงและความปลอดภัยของแอลคาร์นิทีน
- แอลคาร์นิทีนค่อนข้างปลอดภัยเมื่อรับประทานหรือฉีดเข้าร่างกายเป็นเวลานาน 12 วัน ด้วยการควบคุมดูแลจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
- อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน
- อาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง แสบร้อนกลางอก ท้องร่วง และชักเกร็ง
- อาจส่งผลต่อปัสสาวะ เหงื่อ และลมหายใจ ทำให้เกิดกลิ่นคาว
- ควรเลี่ยงการใช้แอลคาร์นิทีนและดีแอลคาร์นิทีน (DL-carnitine) ซึ่งเป็นคาร์นิทีนรูปแบบอื่นที่อาจเข้ายับยั้งผลของแอลคาร์นิทีน และอาจเกิดอาการคล้ายกับภาวะขาดแอลคาร์นิทีนได้
คำเตือน ปริมาณการใช้ และข้อควรระวังในการใช้แอลคาร์นิทีน
สตรีมีครรภ์และแม่ที่ต้องให้นมบุตร
ในปัจจุบันยังไม่ค่อยมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความปลอดภัยจากการใช้แอลคาร์นิทีนในกลุ่มผู้มีครรภ์ ดังนั้นคนในกลุ่มดังกล่าว ควรเลี่ยงใช้แอลคาร์นิทีนเพื่อความปลอดภัยของตนเองและบุตร
เด็ก
แอลคาร์นิทีนจัดว่าอาจจะปลอดภัยเมื่อบริโภคหรือฉีดเข้าเส้นเลือดในปริมาณที่เหมาะสมในระยะเวลาสั้น ๆ โดยสามารถใช้ได้นานถึง 6 เดือน
อาการไตล้มเหลว
การฉีดดีแอลคาร์นิทีนเข้าร่างกายหลังการฟอกไตมีรายงานว่าทำให้ผู้ป่วยโรคไตประสบกับอาการอย่างกล้ามเนื้ออ่อนแรงและตาหย่อน แต่สำหรับแอลคาร์นิทีนนั้นกลับไม่พบว่าส่งผลเสียดังกล่าวเกิดขึ้น
ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยเกิน (Hypothyroidism)
การใช้แอลคาร์นิทีนกับภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานน้อยอาจทำให้อาการของภาวะนี้ทรุดลงได้
อาการชักเกร็ง
การใช้แอลคาร์นิทีนอาจทำให้อาการชักในผู้ที่เคยเกิดอาการชักเกร็ง มีอาการเกิดบ่อยขึ้น ดังนั้นจึงไม่ควรใช้แอลคาร์นิทีนหากเคยมีอาการดังกล่าว
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม
- ควรทาน แอลคาร์นิทีน ก่อนออกกำลังกาย 30 นาที เพื่อช่วยเพิ่มพลังงานและลดความเหนื่อยล้าของร่างกายหลังการออกกำลังกายได้ดีขึ้น
- แอลคาร์นิทีน พบในเนื้อสัตว์ ไข่ ถั่ว เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อแกะ ข้าวโพด ลูกเดือย ข้าวโอ๊ต ข้าวสาลี ฟักทอง ทานตะวัน งา ถั่วเหลือง ถั่วเขียว หน่อไม่ฝรั่ง บร็อคโคลี่ คะน้า ฯลฯ
- มีหน้าที่ลำเลียงไขมันเข้าไปในเซลล์ เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน เมื่อเสริมแอลคาร์นิทีนเข้าไป จึงเป็นการช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมัน ลดการสะสมของไขมัน และส่งผลให้ลดน้ำหนักได้ดีมากขึ้น
- ปริมาณที่แนะนำต่อวัน 500-1000 mg. ไม่ควรรับประทานเกิน 2,500 มิลลิกรัมต่อวัน
- WATSONS วัตสัน แอล-คาร์นิทีน 500 มิลลิกรัม แอล-คาร์นิทีน 500 มิลลิกรัม มีส่วนประกอบจาก แอล-คาร์นิทีน 500 มก. ปราศจากน้ำตาล และไม่เติมวัตถุกันเสีย
- Vistra วิสทร้า ซีแอลเอ แอนด์ แอล-คาร์นิทีน พลัส วิตามินอี เสริมสร้างมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ลดปัญหาของการมีรูปร่างที่ไม่กระชับ ลดปริมาณการเกิดไขมันสะสมใหม่ เร่งสลายไขมันส่วนเกิน
- MC Plus Active แม็คพลัสแอคทิฟ ช่วยให้อิ่มนาน ทำให้ไม่รับประทานขนมหรือของจุกจิกระหว่างวัน มี Super L-Carnitine เพิ่มกล้ามเนื้อมากขึ้น 5 เท่า
5. ช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อและพลังงาน แอลคาร์นิทีนเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่ง ช่วยทำให้ร่างกายเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน ซึ่งพลังงานที่ได้มาส่วนใหญ่ก็จะถูกใช่สำหรับการทำงานของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย
6. การรับประทาน แอลคาร์นิทีน เสริมควรปรึกษาแพทย์ก่อน อย่างที่ได้บอกไปว่าแอล-คาร์นิทีนอาจส่งผลข้างเคียงต่อร่างกาย การทานแอลคาร์นิทีนให้ได้ผลดีจึงควรทานตามคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน
ทำความรู้จักกับประโยชน์ของเจ้า L-carnitine (แอลคาร์นิทีน) กันมาแล้ว สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังตามหาตัวช่วยในการดูแลสุขภาพอย่างการลดน้ำหนัก ลองให้ L-carnitine (แอลคาร์นิทีน) เป็นตัวเลือกในการคุมน้ำหนักของเพื่อน ๆ กันได้ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย และทานอาหารที่มีประโชน์ เพื่อให้ L-carnitine (แอลคาร์นิทีน) ส่งผลที่ดีต่อสุขภาพด้วยนั่นเองค่ะ
ข้อมูลอ้างอิง
ยา L-Carnitine – ข้อมูล ข้อบ่งใช้ ผลข้างเคียง https://hdmall.co.th/pharmacies-chat/l-carnitine
L-CARNITINE เพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ลดมวลไขมัน https://www.bangkokhospital.com/content/lcar-increase-muscle-reduce-fat