Get the App
DOWNLOAD NOW
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอปวัตสัน
  • google-play.png
  • app-store.png
  • app-gallery.png
Find a Store Blog
Watsons Services
0
MY BAG
Share

ยุคนี้เป็นยุคพลังงานเป็นของมีค่า ไฟฟ้า ก็เช่นกัน สูงเอา ๆ ยิ่งอากาศร้อน หลาย ๆ บ้าน – บริษัท องค์กรต่าง ๆ ก็ต้องเปิดแอร์ หรืออุปกรณ์ทำความเย็นต่าง ๆ เพื่อบรรเทาความร้อนก่อนเป็นฮีตสโตรกกันไปซะก่อน

วันนี้วัตสันก็เลยนำ 6 วิธีประหยัดไฟฟ้าง่าย ๆ ได้ผลจริงในช่วงหน้าร้อนเมื่อต้องเปิดแอร์ทำงาน หรือจะเปิดเพื่อฟอกอากาศกันค่ะ

6 วิธีประหยัดไฟฟ้าง่าย ๆ ได้ผลจริง

1. ประหยัดไฟด้วยการทำความสะอาดเครื่องใช้ไฟฟ้า

เป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าวิธีแรกที่ช่วยลดการทำงานของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้โดยตรง และส่งผลต่อการใช้ไฟทันที ไม่ว่าจะเป็นการโล๊ะของจากตู้เย็นที่แช่ของมากมายเกินความจำเป็น หรือแอร์ที่นาน ๆ ทีจะล้างจนฝุ่นเกาะ รวมไปถึงพัดลมและเครื่องกรองอากาศด้วยเช่นกัน

2. ปิดเครื่องใช้ไฟฟ้า – ถอดปลั๊กออกเมื่อไม่ใช้งาน

ได้เวลาเปลี่ยนหลอดไฟที่เป็นหลอดเก่ากินไฟ มาเป็นหลอด LED ประหยัดไฟ รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบประหยัดไฟอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน

3. เลือกใช้หลอดไฟ LED ประหยัดไฟ

ได้เวลาเปลี่ยนหลอดไฟที่เป็นหลอดเก่ากินไฟ มาเป็นหลอด LED ประหยัดไฟ รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าแบบประหยัดไฟอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

4. ไม่ชาร์จมือถือข้ามคืนเพื่อประหยัดไฟ

สมัยนี้ไม่จำเป็นต้องชาร์จมือถือทิ้งไว้ทั้งคืน หรือชาร์จตลอดเวลาเพื่อให้เต็มแล้ว สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ใช้ระบบ Fast Charge เพื่อประหยัดเวลา – ประหยัดไฟเวลาชาร์จด้วย

5. เปิดแอร์ในอุณหภูมิที่เหมาะสมและใช้พัดลมช่วย

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ การเปิดแอร์และพัดลม พร้อม ๆ กัน ช่วยประหยัดไฟได้ การเปิดแอร์ด้วยอุณหภูมิที่สูงหน่อย สัก 26-28 องศา จะทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานน้อยลง จึงทำให้ใช้ไฟน้อยลงทำให้ประหยัดไฟ

และการเปิดพัดลมจะช่วยเพิ่มความเร็วลม ทำให้ความเย็นกระจายตัวได้มากขึ้น เมื่อมีลมเยอะ อากาศจะลดลงกว่าอุณหภูมิที่ตั้งไว้ 1-2 องศา วิธีนี้เป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าในช่วงหน้าร้อนที่ต้องเปิดแอร์อยู่ตลอดได้นั่นเอง

6. เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลาก ประหยัดไฟเบอร์ 5

ควรเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เพราะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าทีได้รับการการันตีแล้วว่าประหยัดไฟจริง ตามมาตรฐานที่ กฟผ. และกระทรวงพลังงานกำหนด

6 วิธีอยู่บ้าน ประหยัดไฟ

ในเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่ว ๆ ไปอย่างหลอด LED หรือการชาร์จมือถือ อาจไม่ได้กินไฟเท่าอุปกรณ์ที่ต้องเปิดใช้งานเป็นเวลานาน ๆ เปิดทุกวัน หรือทั้งวันอย่าง แอร์ ตู้เย็น เครื่องกรองอากาศ หรือแม้แต่คอมพิวเตอร์

สำหรับใครที่ WFH ทำงานที่บ้าน หรือว่าจะเป็นชาวฟรีแลนซ์ เรามาดูกันดีกว่าว่าจะใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดที่เปิดใช้งานตลอดเวลายังไงให้ประหยัดไฟฟ้ากว่าเดิม

4 วิธีใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไรให้ประหยัดไฟกว่าเดิม

1. ตู้เย็น เย็นใจ ค่าไฟชิลๆ

ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟค่อนข้างมาก เพราะต้องเสียบปลั๊กให้ทำงานตลอดทุกวัน และทั้งวัน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวิธีทำให้ประหยัดลงได้ เรามาดูกันว่าจะทำยังไงให้ตู้เย็นที่บ้านเรากินไฟน้อยลง

ใช้ตู้เย็นยังไงให้ค่าไฟไม่แพง

1.1. ดูตำแหน่งที่ตั้งตู้เย็น

ไม่ควรตั้งใกล้จุดที่เกิดความร้อนเพื่อประหยัดไฟ เช่น ตั้งไว้นอกบ้าน (สำหรับบ้านที่มีครัวนอกตัวบ้าน) ไม่ควรตั้งใกล้เตาไฟ เตาอบ เพราะรัศมีความร้อนจากเตาจะทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้นเพื่อควบคุมอุณหภูมิภายใน และควรตั้งให้ห่างจากผนังอย่างน้อย 15 เซนติเมตร

1.2. ตรวจสอบจุดรั่ว จุดชำรุดของตู้เย็น

การตรวจสอบจุดรั่ว จุดชำรุดของตู้เย็นเช่น ขอบยางของตู้เย็นก็เป็นอีกวิธีประหยัดไฟฟ้า หากขอบยางของตู้เย็นไม่สามารถเก็บความเย็นได้ ก็ควรซ่อมแซมเพื่อไม่ให้ตู้เย็นทำงานหนักกว่าเดิม

1.3. ทำความสะอาดตู้เย็น อย่างน้อยเดือนละครั้ง

การทำความสะอาดตู้เย็น อย่างน้อยเดือนละครั้งเพื่อเอาของกินที่แช่ไว้นานจนลืม หรือของกินที่หมดอายุแล้วออกมา นอกจากจะเป็นการลดภาระให้ตู้เย็นแล้ว ยังช่วยทำให้ประหยัดไฟ และตู้เย็นก็สะอาดน่าใช้งานมากขึ้นด้วย

1.4. ไม่ควรนำของร้อนมาแช่

ตู้เย็นมีคุณสมบัติคงความเย็น รักษาอุณหภูมิเพื่อป้องกันการเน่าเสียของของที่เอามาแช่ ดังนั้น การนำของร้อนมาแช่ตู้เย็น จะยิ่งทำให้ตู้เย็นทำงานหนักขึ้น เพราะต้องจ่ายความเย็นให้เหมาะสมกับของร้อนที่นำมาแช่นั้นเอง

2. แอร์ เครื่องปรับอากาศ บ้านเย็น เซฟค่าไฟ

แอร์ หรือเครื่องปรับอากาศ เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นต้องใช้อย่างต่อเนื่องหลายชั่วโมงเลยสำหรับหน้าร้อนแบบนี้ แล้วจะมีวิธีทำให้ประหยัดไฟได้ยังไงบ้างนะ มาดูกันค่ะ

เปิดแอร์ให้ประหยัดไฟ

2.1. ล้างแอร์ทุกๆ 6 เดือน

การล้างแอร์ทุก ๆ 6 เดือน รวมไปถึงหมั่นล้างไส้กรอง และแผงระบายความร้อนอยู่เสมอ เป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าที่จะช่วยลดการทำงานของเครื่อง และทำให้แอร์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

2.2. จำกัดพื้นที่ในการใช้แอร์

ยิ่งพื้นที่กว้าง จะยิ่งทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น ดังนั้น หากมีแผนจะซื้อแอร์ก็ต้องดูพื้นที่ที่จะติดตั้งแอร์เสียก่อนเพื่อประหยัดไฟ บางทีอาจจะต้องกั้นห้อง หรือใช้แอร์ใน BTU ที่สูงขึ้นตามความกว้างของพื้นที่

2.3. ปิดหน้าต่างหรือประตู ให้มิดชิดเมื่อต้องเปิดแอร์

การปิดหน้าต่างหรือประตูให้มิดชิดเป็นอีกวิธีประหยัดไฟฟ้า เพราะช่องว่างของประตูหรือหน้าต่าง จะทำให้อุณหภูมิเล็ดรอดออกไป และทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น เพราะต้องปรับอุณหภูมิให้เย็นอย่างคงที่ตามอุณหภูมิที่เราตั้งไว้

2.4. ไม่ติดตั้งแอร์ในห้องที่มีการใช้อุปกรณ์ให้ความร้อน

ไม่ติดตั้งแอร์ในห้องที่มีการใช้อุปกรณ์ให้ความร้อนเช่น ห้องครัว หรือห้องที่เกิดความร้อนมากที่สุด ก็เป็นอีกวิธีประหยัดไฟฟ้า เพราะทุกครั้งที่ทำอาหาร ความร้อนจะเข้ามาทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้นนั่นเอง รวมไปถึงการรีดผ้และเปิดแอร์ไปพร้อม ๆ กัน ก็จะยิ่งกินไฟมากขึ้น

3. เครื่องฟอกอากาศเลือกให้เป็นไม่กินไฟ

เครื่องฟอกอากาศ อีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สำคัญ และจำเป็นในยุคที่มีมลภาวะเยอะเต็มอากาศไปหมดแบบนี้ และจำเป็นต้องเปิดใช้งานต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง ซึ่งการใช้เครื่องฟอกอากาศให้ประหยัดไฟ เริ่มได้ตั้งแต่การเลือกซื้อเลย ดังนี้

เลือกเครื่องฟอกอากาศยังไงให้ไม่กินไฟ

3.1. ขนาดห้อง และค่า CADR ของเครื่องฟอกอากาศต้องสัมพันธ์กัน

วิธีประหยัดไฟฟ้าวิธีแรก คือ เลือกเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสมกับขนาดห้อง โดยดูค่า CADR ให้อยู่ในอัตราส่งผ่านอากาศบริสุทธ์ให้เหมาะสมกับขนาดห้อง

3.2. เปิดเครื่องฟอกอากาศในห้องปิดช่วยประหยัดไฟ

การเปิดเครื่องฟอกอากาศในห้องปิดเป็นอีกวิธีประหยัดไฟฟ้า เพราะจะช่วยลดการทำงานของเครื่องฟอกอากาศลงได้ และไม่ควรเปิดหน้าต่าง หรือประตู เพื่อจำกัดฝุ่นที่จะไหลเวียนเข้ามาผ่านประตู-หน้าต่างที่เราเปิดไว้ รวมไปถึงควรขยายเวลาในการล้างและเปลี่ยนแผ่นกรองด้วย

3.3. ล้างทำความสะอาดแผ่นกรองเพื่อประหยัดไฟ

เพื่อให้เครื่องฟอกอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงควรล้างทำความสะอาด หรือเปลี่ยนแผ่นกรองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการทำงานของเครื่องฟอกอากาศและยังเป็นวิธีประหยัดไฟฟ้าอีกด้วย

3.4. ทำความสะอาดห้องบ่อยๆ เป็นวิธีประหยัดไฟฟ้า

ห้องสะอาดปราศจากฝุ่น ก็จะช่วยลดการทำงานของเครื่องฟอกอากาศลงได้ ดังนั้น อีกหนึ่งวิธีประหยัดไฟฟ้าที่จะช่วยแบ่งเบาการทำงานของเครื่องฟอกอากาศไม่ให้กินไฟมาก คือ การช่วยกันคนละไม้คนละมื้อ คอยเช็กฝุ่น คอยกวาดถูห้องให้สะอาดนั่นเอง

4. คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ้ค

สำหรับสาย WFH หรือฟรีแลนซ์ที่ต้องนั่งทำงานหน้าคอมฯ ที่บ้าน จะทำยังไงให้คอมฯ ของตัวเองกินไฟน้อยดี? หรือทำยังไงให้ประหยัดไฟลงได้มาดูกัน

วิธีประหยัดค่าไฟ ใช้โน๊ตบุ้คยังไงให้เซฟเงิน

4.1. เลือกใช้โน๊ตบุ๊คแทนเครื่อง PC ช่วยประหยัดไฟได้

เพราะโน๊ตบุ้คมีแบตเตอร์รี่สำรองไว้ในตัว จึงไม่จำเป็นต้องเสียบปลั๊กตลอดเวลาที่เปิดใช้ ในขณะที่ PC หากไม่มีการเสียบปลั๊กระบบจะรันไม่ได้

รวมไปถึงหากใช้ PC ก็จะไม่ได้ใช้แค่ปลั๊ก CPU อย่างเดียว จะต้องเสียบปลั๊กหน้าจอ-ลำโพงพร้อม ๆ กัน ยิ่งเป็นการเพิ่มอุปกรณ์มากินไฟบ้านไปอีก ในขณะที่โน๊ตบุ๊คเสียบปลั๊กเดียว ก็รันระบบสามารถให้งานได้ทั้งตัวเครื่องและหน้าจอ

4.2. เลือกโน๊ตบุ้คที่มี Energy Star เพื่อประหยัดไฟ

เพราะ Energy Star เป็นสัญลักษณ์ที่คล้าย ๆ ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 เป็นการรับรองเครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิคว่าไม่กินไฟ จะช่วยประหยัดไฟลงได้ 30%

4.3. ตั้ง Sleep Mode เพื่อประหยัดไฟ

เมื่อไม่ให้โน๊ตบุ๊ค หรือเครื่อง PCมีการใช้งานนานเกิน 10-15 นาที การเปิดใช้ Sleep mode ก็จะช่วยประหยัดไฟได้ 60% เมื่อเทียบกับการเปิด standby mode ให้พร้อมใช้งานเสมอ

4.4. ตั้งโน๊ตบุ้ค หรือห้องทำงาน ในจุดที่มีแสงเข้าอย่างเหมาะสม

เลี่ยงการตั้งโน๊ตบุ้ค และตั้งโต๊ะทำงานในจุดที่มีแดดส่องก็เป็นวิธีประหยัดไฟฟ้า เพราะความร้อนจากแดดจะทำให้คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ้คทำงานหนักกว่าเดิม ทั้งยังเป็นการถนอมเครื่องใช้ไฟฟ้าให้มีอายุการใช้งานที่นานกว่าเดิมด้วย

ทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีประหยัดไฟฟ้า ให้เครื่องไฟฟ้ากินไฟน้อยลง เพื่อน ๆ ลองทำตามกันได้นะคะ แล้วมาดูกันว่าจะประหยัดไฟได้ไหม หรือค่าไฟจะลดไหม หรือรู้สึกไหมว่าหลังปรับวิธีการใช้ หรือทำความสะอาดแล้วเครื่องใช้ไฟฟ้าของเราทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

ช่วงหน้าร้อนแบบนี้มาเพิ่มความเย็นให้กับร่างกาย แบบประหยัดไฟแทบจะไม่ต้องพึ่งแอร์เลย ด้วย Cooling items ที่วัตสัน ไม่ว่าจะเป็นทิชชู่เปียกที่มีสารให้ความเย็น แป้งเย็น สเปรย์สูตรเย็น หรือแม้แต่ Cool gel สำหรับแปะตามร่างกาย ที่ไม่ใช่แค่ลดไข้ แต่ยังช่วยคลายความร้อนในร่างกาย แถมยังเป็นวิธีประหยัดไฟฟ้า ได้ด้วยนะคะ

👥 เกาะติดโปรโมชั่น พร้อมอัพเดท Lifestyle ที่ Facebook https://www.facebook.com/watsonsthailand
📱 แอปพลิเคชั่น โหลดฟรี! https://watsonsonline.store/apphomepage
💚 แอดไลน์วันนี้ ไม่พลาดทุกโปรโมชั่น! LINE Official Account https://line.me/R/ti/p/@watsonsth?from=page
🌈อัพเดททุกเทรนด์ก่อนใคร ที่ Twitter https://twitter.com/WatsonsThailand
📷 ติดตามเคล็ดลับสุขภาพและความงามที่ Instagram https://www.instagram.com/watsonsth/
💟ส่องเทรนด์มาแรงไปกับเรา https://www.tiktok.com/@watsonsth?lang=th-TH

คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ

Previous

10 วิธีรักษารูขุมขนกว้าง ให้ผิวกระชับ รับหน้าร้อน

Next

10 โฟมล้างหน้าสําหรับผิวแพ้ง่ายช่วยขจัดฝุ่น PM 2.5

Related Topics
Share
WHAT’S HOT
  1. 10 ร้านเสื้อผ้าในไอจีราคาถูก หลักร้อย ไม่ตกเทรนด์
  2. 12 สกินแคร์จาก CICA ส่วนผสมช่วยลดสิว ผิวระคายเคือง
  3. 10 สถานที่ขอพรเรื่องความรัก ช่วยคนโสดไม่ให้นก
  4. 15 ครีมบำรุงผิวขาว และครีมทาผิวขาวยี่ห้อไหนดี 2024
  5. แต่งหน้าเป๊ะปังด้วยเมคอัพ ชิ้นที่สอง1บาท
  6. 10 โฟมล้างหน้าลดสิวเสี้ยน หน้าเนียนใส ห่างไกลสิว
  7. ส่อง! 20 ประโยชน์ของ NAC (N-Acetylcysteine)
  8. วิธีล้างแปรงแต่งหน้า พัฟแต่งหน้า ด้วยคลีนเซอร์ง่าย ๆ
  9. รีวิวแป้งฝุ่นศรีจันทร์ Gen 1 ปะทะ Gen 2 ต่างกันยังไง? ใช้ตัวไหนดีนะ?
  10. รีวิว needly toner pad โทนเนอร์แพดผิวใสทั้ง 4 สูตร
  11. 20 ไอเดียทรงผมคนหน้ากลม ปรับลุคใหม่หน้าเรียวเล็ก น่ารัก ไม่ต้องง้อหัตการ