โหลดแอปฯ
ดาวน์โหลด:
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอปวัตสัน
  • google-play.png
  • app-store.png
  • app-gallery.png
ค้นหาร้านค้า บทความน่าอ่าน
Watsons Services
0
ตะกร้า
Share

 

วิธีกำจัดสิว: สาเหตุการรักษาและการป้องกัน

 

สาว ๆ บางคนอาจรู้สึกหงุดหงิดมากที่จะต้องต่อสู้กับสิว ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น สิว, สิวหัวดำ, สิวหัวขาว, ถุงน้ำหรือก้อนตุ่ม เป็นต้น ต่อไปนี้เป็นเคล็ดลับในการกำจัดสิวเพื่อผิวที่กระจ่างใสสีผิวสม่ำเสมอ

 

ประเภทของสิว

 

สิวคืออะไรและเกิดจากสาเหตุอะไร?

สิวคือสภาพที่ผิวมีการอักเสบโดยมีลักษณะเป็นสิวแดงบนผิว โดยเฉพาะบนใบหน้า เกิดขึ้นเมื่อน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้วมาอุดตันรูขุมขน สาเหตุหลักคือการเกิดฮอร์โมนเพศชายอย่างเทสโทสเตอโรนที่มีอยู่ในทั้งชายและหญิงมากเกินไป ฮอร์โมนเพศชายในระดับที่สูงมากขึ้นจะกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวหนังและการผลิตไขผิวหนัง เมื่อสิ่งสกปรกและเซลล์ผิวที่ตายแล้วมาอุดตันรูขุมขน ก็จะสร้างสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบให้แบคทีเรียเจริญเติบโต โดยก่อให้เกิดการอักเสบที่นำไปสู่การเกิดสิว

ชนิดของสิว:

  • สิวหัวดำ
  • สิวหัวขาว
  • ตุ่มสิว
  • ผด
  • ตุ่มหนอง
  • ถุงน้ำ / ตุ่มเล็ก ๆ

การรักษาและการป้องกัน

 

การรักษาและการป้องกัน

 

การป้องกัน

 

#1 ลองใช้คลีนเซอร์ที่มีกรดซาลิไซลิค

ทำความสะอาดใบหน้าวันละสองครั้งด้วยคลีนเซอร์ทำความสะอาดที่ต่อสู้กับสิวที่มีสูตรกรดซาลิไซลิค อันที่จริงแล้ว กรดซาลิไซลิคเป็นกรดเบต้าไฮดรอกซีที่ออกฤทธิ์ละลายน้ำมันส่วนเกินและขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกอย่างอ่อนโยนเพื่อป้องกันรูขุมขนไม่ให้อุดตัน เรามาพูดถึงกรดที่ทรงพลังนี้ที่ช่วยลดอาการบวมและรอยแดงกันค่ะ หากสาว ๆ คนไหนเพิ่งเริ่มลองใช้กรดซาลิไซลิค ขอให้เริ่มใช้แค่วันละครั้งเท่านั้นนะคะ

 

#2 เลือกการรักษาจุดสิว

เลือกยาทาสิวสำหรับการรักษาจุดสิวที่เคาน์เตอร์ซึ่งสามารถรักษาสิวดื้อได้ในชั่วข้ามคืน แนะนำให้มองหาสูตรที่มีเบนโซอิล เปอร์ออกไซด์, กรดไกลโคลิกหรือกรดซาลิไซลิคที่ต่อสู้กับหัวสิวได้ ทั้งนี้ เบนโซอิล เปอร์ออกไซด์สามารถฆ่าแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวได้ ในขณะที่กรดซาลิไซลิคและกรดไกลโคลิกช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกิน, ลดการอักเสบและทำให้สิวแห้ง เพียงจำไว้ว่าสารเหล่านี้ไม่สามารถใช้ได้กับทั้งใบหน้าของสาวๆ นะคะ เพียงแค่แตะจำนวนเล็กน้อยเบา ๆ ตรงจุดที่เป็นสิวก่อนเข้านอนและทิ้งไว้ข้ามคืนก็พอ

 

#3 มองหาเรตินอยด์

เพิ่มเรตินอยด์ให้เป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรการดูแลผิวเพื่อผิวที่กระจ่างใสมากขึ้น อนุพันธ์ของวิตามินเอไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มการหมุนเวียนของเซลล์ผิว แต่ยังช่วยให้รูขุมขนมีความไวต่อการอุดตันน้อยลงอีกด้วย ดังนั้น จึงช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสิวหัวดำ, สิวหัวขาวและแผลสิวอื่น ๆ ทั้งนี้ ผลข้างเคียงของการใช้เรตินอยด์ ได้แก่ รอยแดง, ผิวเกิดความแห้ง, อาการคันและแสบ ขอแนะนำให้ใช้อย่างสม่ำเสมอ 3 ครั้งต่อสัปดาห์เมื่อเริ่มใช้

#4 ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ประจำวันที่เป็นมิตรกับสิว

แนะนำให้ใช้มอยส์เจอไรเซอร์สูตรออยล์ฟรีและไม่ทำให้รูขุมขนอุดตันหากว่าสาว ๆ คนไหนกำลังต่อสู้กับสิวอยู่ โดยต้องใช้สูตรที่มีเนื้อบางเบาและไม่เหนียวเหนอะหนะ ที่จะไม่อุดตันรูขุมขนหรือทำให้เกิดสิวที่รุนแรงมากขึ้น แนะนำให้ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นชั้นบาง ๆ เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการดูแลผิวประจำวันเพื่อผิวที่ดูมีสุขภาพดีขึ้นและเนียนขึ้น ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผิวมีความชุ่มชื้นแม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่มีสิวเพื่อช่วยปกป้องผิวของสาว ๆ ให้มีสุขภาพดี

#5 ใช้เครื่องสำอางที่เป็นมิตรกับผิวที่เป็นสิวง่าย

มองหาผลิตภัณฑ์แต่งหน้าที่มีเนื้อบางเบาและมีฉลากกำกับว่า “ออยล์ฟรี” หรือ “ไม่ทำให้รูขุมขนอุดตัน” ส่วนผสมต่าง ๆ เช่น กรดซาลิไซลิค, กรดไฮยาลูโรนิก และแม้กระทั่ง ซัลเฟอร์ ก็สามารถช่วยบรรเทาการเกิดสิวได้

 

รักษาสิว

 

อย่างไรก็ตาม การบีบเค้นสิวไม่ใช่วิธีที่ดีนะคะ การสะกิดจะทำให้สิวต้องใช้เวลารักษานานมากขึ้นและยังสามารถนำไปสู่การติดเชื้อได้อีกด้วย แนะนำสาว ๆ ต้องเอามือให้อยู่ห่างจากหน้านะคะ! หรือทางที่ดีสามารถใช้ที่กดสิวทดแทนได้ค่ะ

อยากได้เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับการดูแลผิวมันไหมคะ? ลองดูที่นี่ได้เลยค่ะ!

 

การเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์เพื่อผิวใส

 

การเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์เพื่อผิวใส 1

 

การเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์เพื่อผิวใส

#1 หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้สิวแย่ลง

อาหารที่มีน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ในปริมาณสูงจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดสิว เนื่องจากอาหารเหล่านี้สามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็วและทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ทำให้ระดับอินซูลินสูงขึ้น อินซูลินทำให้ฮอร์โมนเพศชายสูงขึ้นและก่อให้เกิดการก่อตัวของสิว ผลิตภัณฑ์จากกลุ่มธัญญพืชที่ผ่านการสีแล้ว เช่น ขนมปังขาวและข้าวขาว และผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นม จะมีผลกระทบต่อร่างกายด้วยเช่นกัน

#2 เพิ่มอาหารที่ต่อสู้กับสิวและอาหารเสริมลงในอาหาร

อาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 เช่น ปลาแซลมอน, ถั่ววอลนัท, ปลาเทราท์, ปลาซาร์ดีน เป็นตัวช่วยที่ดีมากในการลดการอักเสบ สามารถเพิ่มวิตามินซีลงในอาหารเพื่อลดรอยแผลเป็นจากสิวได้ด้วยเช่นกัน เพราะจะเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันและทำให้อัตราการหมุนเวียนของเซลล์สูงขึ้น นอกจากนี้ ส้ม, มะเขือเทศ, กีวีและเกรปฟรุต ยังเป็นแหล่งวิตามินซีที่ดีมากอีกด้วย

#3 นอนหลับให้สนิทและดื่มน้ำมากขึ้น

 

เคล็ดลับดูแลผิว

 

การนอนหลับที่มีคุณภาพสูงจะช่วยให้ผิวพรรณดูดีขึ้น แนะนำให้นอนเป็นเวลา 7-8 ชั่วโมงเพื่อให้ผิวของสาว ๆ มีเวลาฟื้นตัวในช่วงเวลากลางคืน ควรดื่มน้ำมากขึ้นเพื่อให้ร่างกายและผิวมีความชุ่มชื้นโดยจะช่วยป้องกันผิวไม่ให้เกิดความแห้งและเซลล์ผิวที่ตายแล้วไม่มาอุดตันรูขุมขน การดื่มน้ำให้เพียงพอยังช่วยให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับการอักเสบซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิวได้อีกด้วย

 

เช็คโปรล่าสุด สินค้าลดราคา พิเศษเฉพาะที่วัตสันออนไลน์

Check Latest Online Exclusive Promotions >

Previous

วิธีการเลือกครีมบำรุงผิวสำหรับผิวมัน

Next

แดดหน้าหนาว!หายห่วง ด้วย 10 กันแดดผิวสวยชิ้นเด็ด

Related Topics
Share
WHAT’S HOT
  1. 10 ร้านเสื้อผ้าในไอจีราคาถูก หลักร้อย ไม่ตกเทรนด์
  2. 12 สกินแคร์จาก CICA ส่วนผสมช่วยลดสิว ผิวระคายเคือง
  3. 10 สถานที่ขอพรเรื่องความรัก ช่วยคนโสดไม่ให้นก
  4. 15 ครีมบำรุงผิวขาว และครีมทาผิวขาวยี่ห้อไหนดี 2024
  5. แต่งหน้าเป๊ะปังด้วยเมคอัพ ชิ้นที่สอง1บาท
  6. 20 ไอเดียทรงผมคนหน้ากลมอ้วนช่วยพรางหน้าให้เรียวเล็ก
  7. รีวิว needly toner pad โทนเนอร์แพดผิวใสทั้ง 4 สูตร
  8. เหตุผลที่คุณควรเลือกมาส์กชีทที่พัฒนาสูตรโดยแพทย์ผิวหนังเกาหลี
  9. 10 ลายเล็บเจลขับผิว ช่วยให้นิ้วขาว มือดูสวยผ่อง
  10. โพรไบโอติกส์ (Probiotics) และพรีไบโอติกส์ (Prebiotics) คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร
  11. โทนเนอร์คืออะไร จำเป็นไหม และใช้ตอนไหนดี
*/?>