ว่ากันว่า “ น้ำมันปลา “ มีสรรพคุณสามารถช่วยลดลิ่มเลือดอุดตันได้ และยังมีข้อมูลว่าน้ำมันปลามีประโยชน์ในการบำรุงหัวใจและสมองได้ด้วย บทความนี้เลยอยากชวนเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับน้ำมันปลาให้มากขึ้น น้ำมันปลามีสรรพคุณที่ดีต่อร่างกายยังไง? ควรเลือกน้ำมันปลาแบบไหนที่ตอบโจทย์กับตัวเรา? และมีน้ำมันปลายี่ห้อไหนดีบ้าง ลองตามไปดูกันต่อเลย
น้ำมันปลาคืออะไร?
น้ำมันปลา คือไขมันที่ได้จากส่วนต่าง ๆ ของปลาที่มีไขมันสูง สกัดจากเนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของปลา จำพวก ปลาแมกเคอเรล ปลาเฮอร์ริง ปลาทูน่า และปลาแซลมอน ที่มีอยู่ในธรรมชาติ ซึ่งสารสกัดในน้ำมันปลาจากปลาเหล่านี้ล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เช่น กรดไขมันไม่อิ่มตัวกลุ่ม “ โอเมก้า-3 ” ที่มีความสำคัญต่อร่างกายมนุษย์ โดยอุดมไปด้วยกรดไขมัน Omega-3 จำนวน 2 ชนิด ได้แก่
1. EPA (Eicosapentaenoic Acid)
กรดโอเมก้าที่มีประโยชน์หลากหลาย ทั้งควบคุมระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ลดความเสี่ยงเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตัน ยับยั้งการผลิตสารที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบต่าง ๆ โดยเฉพาะบริเวณข้อ ฯลฯ
2.DHA (Docosahexaenoic Acid)
กรดโอเมก้าที่สำคัญต่อเซลล์สมองและเซลล์ประสาทตา โดยพบ DHA ที่สมอง 40% และพบที่จอประสาทตา 60% จึงช่วยทั้งเรื่องความจำและการมองเห็นให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพ
เลือกน้ำมันปลาอย่างไรให้ตอบโจทย์
1.สังเกตสัดส่วนปริมาณของ DHA : EPA
กรดโอเมก้าที่มีประโยชน์หลากหลาย ทั้งควบคุมระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ลดความเสี่ยงเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตัน ยับยั้งการผลิตสารที่ก่อให้เกิดอาการอักเสบต่าง ๆ โดยเฉพาะบริเวณข้อ ฯลฯ
2.เลือกรูปแบบของน้ำมันปลาที่รับประทานสะดวก
อาหารเสริมน้ำมันปลามีให้เลือกหลายแบบมากมาย ส่วนใหญ่คนจะนิยมอยู่ 2 แบบ คือแบบน้ำ ที่นำส่งสารได้ดี แต่มักจะมีกลิ่นคาว ทานยาก เหมาะกับคนที่ต้องการสารอาหารจำนวนมาก และแบบแคปซูล หรือ Soft Gel ทานง่าย มีการคำนวณปริมาณที่เหมาะกับร่างกายแต่ละวัยมาให้เหมาะสม และป้องกันการ Oxidized ได้ดีกว่า
3.เลือกจากความบริสุทธิ์ของน้ำมันปลา
ควรเลือกน้ำมันปลาที่ผ่านกระบวนการแปรรูปจากธรรมชาติจนบริสุทธิ์ ไม่มีโลหะหนักอย่าง ปรอท ตะกั่ว หรือสารปนเปื้อนอื่น ๆ เพื่อความปลอดภัยในการรับประทานต่อเนื่อง และถ้าเกิดอยากได้น้ำมันปลาที่มีคุณภาพสูงขึ้น ลองเลือกน้ำมันปลาที่สกัดจากปลาธรรมชาติน้ำลึกที่อาศัยในแหล่งน้ำเย็น
4.เลือกน้ำมันปลาที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน
ควรเลือกเลือกน้ำมันปลาที่ผ่านการรับรอง อย. และมาตรฐานต่าง ๆ เพราะมีความน่าเชื่อถือ และสามารถการันตีได้ถึงความปลอดภัย คุณภาพดี และได้รับปริมาณเหมาะสมในแต่ละวัน และที่สำคัญไม่มีสารโลหะหนัก
5.เลือกน้ำมันปลาที่มีส่วนประกอบของ Vitamin E
ปกติกรดไขมัน Omega-3 ในน้ำมันปลาจะเกิดการ Oxidation ได้ง่าย การใส่ Vitamin E ลงไปไม่ใช่แค่ได้สารบำรุงเพิ่มในเรื่องของการต้านอนุมูลอิสระ แต่ยังช่วยรักษาคุณภาพของน้ำมันปลาให้พร้อมบริโภคด้วย
10 น้ำมันปลายี่ห้อไหนดี 2024 ลดลิ่มเลือดอุดตัน ลดไขมัน
1. Mega Fish Oil 1000mg.
อาหารเสริมน้ำมันปลายี่ห้อไหนดีที่ให้กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3 ได้แก่ อีพีเอ และดีเอชเอ ก็ต้องMega Fish Oil 1000mg. เพราะใน 1 แคปซูล มีน้ำมันปลา 1000 มก. ประกอบด้วย กรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง กรดไอโคซาเพนตาอีโนอิก (อีพีเอ) 180 มก.กรดไอโคซาเฮกซาตาอีโนอิก (ดีเอชเอ) 120 มก. วิตามินอี 1.4 มก.
2. Blackmores Fish Oil 1000 Mg
อาหารเสริมน้ำมันตับปลายี่ห้อไหนดีที่สกัดมาจากน้ำมันปลาทะเล ก็ต้อง Blackmores Fish Oil 1000 Mg ที่ให้กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า-3 ได้แก่ อีพีเอและดีเอชเอ ประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (โอเมก้า-3) กรดไอโคซาเพนทาอิโนอิก (อีพีเอ) 180 มิลลิกรัม กรดโดโคซาเฮกซาอิโนอิก (ดีเอชเอ) 120 มิลลิกรัม
3. Blackmores Fish Oil Mini
อาหารเสริมน้ำมันปลา Blackmores Fish Oil Mini สูตรเม็ดเล็ก กินง่าย ไม่มีกลิ่นคาว ให้กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า-3 ได้แก่ อีพีเอ และดีเอชเอ และมีวิตามิน อี ที่มีส่วนช่วยใน กระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ ผ่านการตรวจสอบปริมาณสารปรอทและตะกั่วมาแล้ว
4. Blackmores Omega Triple Daily
อาหารเสริมโอเมก้า 3 จากน้ำมันปลา ให้กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า-3 ให้ดีเอชเอ 360 มก. และ อีพีเอ 540 มก. ต่อแคปซูล เมื่อเทียบกับสูตรมาตรฐานจะให้โอเมก้า-3 ถึง 3 เท่า นอกจากนั้นยังเป็นสูตรน้ำมันปลาที่ไม่มีกลิ่นคาว และผ่านการตรวจสอบปริมาณสารปรอทและตะกั่วมาแล้ว
5. Nurtrimaster Fish Oil
อาหารเสริมน้ำมันปลายี่ห้อไหนดีที่สกัดจากปลาทะเลน้ำลึก ก็ต้อง Nurtrimaster Fish Oil ที่มีกรดไอโคซาเพนทาอิโนอิก (EPA) คุณสมบัติในการช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ลดการอุดตันของหลอดเลือด นอกจากนี้ EPA ยังช่วยลดการอักเสบ อาการปวดบวมของโรคข้ออักเสบด้วย และยังมีกรดไดโคซาเฮกซาอิโนอิก (DHA) ช่วยในเรื่องความจำ และช่วยบำรุงจอประสาทตา ช่วยในการมองเห็น เป็นประโยชน์ต่อเด็กและวัยรุ่นที่มีพัฒนาการด้านสมอง ความเครียดจากการทำงานหนักใช้สายตามากเป็นประจำ และผู้สูงอายุที่เริ่มมีความเสื่อมของเซลล์สมอง
6. Vistra Salmon Fish Oil
อาหารเสริมน้ำมันตับปลายี่ห้อไหนดีที่สกัดจากปลาแซลมอน ต้อง Vistra Salmon Fish Oil ที่ให้กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า-3 350 มก. กรดไอโคซาเพนตาอิโนอิก Eicosapentaenoic Acid (EPA) 180 มก. กรดโดโคซาเฮคซาอิโนอิก Docosahexaenoic Acid (DHA) 120 มก. นอกจากนั้นยังมีวิตามินอี อะซิเทต (ให้วิตามินอี 10 หน่วยสากล ) 9.09 มก.
7. Zeavita Tuna Head Fish Oil Plus
น้ำมันปลาตัวนี้สกัดเย็นมาจากหัวทูน่าทะเลน้ำลึก นอกจากนั้นยังมีเบอรรี่ (Bilberry) สารสกัดจากขมิ้นชัน (Turmeric Extract) วิตามินบี 2 มีส่วนช่วยคงสภาพปกติของการมองเห็น วิตามินบี 12 มีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาทและสมอง วิตามินบี 6 มีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาท วิตามินอี มีส่วนช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ
8. Watsons Fish Oil
อาหารเสริมน้ำมันปลาของวัตสัน มีส่วนประกอบจากน้ำมันปลา 1000 มก. ให้กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า 3 ได้แก่ อีพีเอ และ ดีเอชเอใน 1 แคปซูลมีน้ำมันปลา 1000 มก. ประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (อีพีเอ) 180 มก. กรดโดโคเฮกซาอีโนอิก (ดีเอชเอ) 120 มก. ผลรวมกรดไขมันโอเมก้า-3 350 มก. ช่วยบำรุงผิว เส้นผมและเล็บให้มีสุขภาพดีและช่วยเพิ่มความจำบำรุงประสาทและสมอง
9. DR.PONG Daily Omega-3 odourless fish oil 1000 mg plus vitamin E
น้ำมันปลา หรือ Fish Oil ยี่ห้อไหนดีที่ให้กรดไขมันกลุ่มโอเมก้า-3 350 มก. (Total Omega-3) ก็ต้อง DR.PONG Daily Omega-3 odourless fish oil 1000 mg plus vitamin E ทั้งยังให้กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก 180 มก. (Eicosapentaenoic acid, EPA) กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก 120 มก. (Docosahexaenoic acid, DHA) 1000 มก./แคปซูล นอกจากนั้นยังมีวิตามินอี อะซิเทต (ให้วิตามินอี 15 หน่วยสากล) (d-Alpha-Tocopheryl acetate)
10. Nutri Master Bain Syrup
อาหารเสริมสำหรับเด็ก เป็นน้ำมันปลาทูน่า ดีเอชเอ เข้มข้น 70 ผสมวิตามิน เพื่อพัฒนาการทางด้านร่างกายและสมองโดยเฉพาะ มีโอเมก้า 3 ที่มีสัดส่วนของ DHA ความเข้มข้นสูงถึง 70% เป็น DHA คุณภาพดี และมีค่าทางชีวภาพสูง (High bio – availability) ซึ่งสามารถดูดซึมและคงตัวอยู่ในกระแสเลือดได้นาน ทำให้ออกฤทธิ์ได้นาน จึงมีประสิทธิภาพที่สูงกว่าน้ำมันปลาทั่วไป ที่สำคัญคือไม่มีกลิ่นคาว อร่อย รับประทานง่าย กลิ่นผลไม้รวม
น้ำมันปลา กินตอนไหน?
ช่วงเวลาที่เหมาะกับการทาน “ น้ำมันปลา “ ก็คือการทาน “พร้อมอาหารหรือหลังมื้ออาหาร” เพื่อให้ร่างกายดูดซึมสารจำเป็นเข้าสู่ร่างกายได้ดีมากขึ้น และควรกินในปริมาณเหมาะสมกับที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ไม่ควรรับประทานพร้อมอาหารคอเลสเตอรอลสูง เพราะจะทำให้ระดับคอเลสเตอรอลอาจเสียสมดุล และไม่ควรกินพร้อมกับยาที่มีฤทธิ์ต้านการจับตัวของเลือด เช่น แอสไพริน เป็นต้น อาจทำให้เลือดหยุดไหลยากขึ้น
10 สรรพคุณ น้ำมันปลา
1. บรรเทาไขข้ออักเสบ รูมาตอยด์
น้ำมันปลามีสรรพคุณช่วยลดอาการปวดข้อเข่า ข้อเสื่อม ข้ออักเสบ หรือ จำพวกรูมาตอยด์ในวัยผู้สูงอายุที่มีประสบปัญหาอาการเหล่านี้ น้ำมันปลาจะช่วยลดอาการดังกล่าวได้
2. ประโยชน์ต่อระบบหลอดเลือด
น้ำมันปลามีส่วนช่วยป้องกันอาการโรคหลอดเลือดแดงแข็งตัว
3. ประโยชน์ต่อระบบความดันโลหิต
น้ำมันปลามีส่วนช่วยลดในเรื่องความดันโลหิตสูง
4. ประโยชน์ต่อระบบหัวใจ
น้ำมันปลาช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจวายเฉียบพลัน
5. ลดระดับระดับคอเลสเตอรอลในเลือด
น้ำมันปลามีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และ ไตรกลีเซอไรด์ที่เป็นอันตราย
6. ประโยชน์ต่อระบบประสาทและสมอง
น้ำมันปลาช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง เพิ่มความจำไม่ให้ขี้หลงขี้ลืมได้ดีขึ้น
7. น้ำมันปลาช่วยลดน้ำหนักได้
น้ำมันปลามีส่วนช่วยเพิ่มการเผาผลาญให้แก่ร่างกาย ที่สำคัญยังช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อทำให้หุ่นดีได้ แต่ก็ควรออกกำลังกายและกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพควบคู่ไปด้วย
8. น้ำมันปลาช่วยลดการอักเสบหรือการอักเสบของกระดูก
เนื่องจากน้ำมันปลามีส่วนช่วยในการลดการผลิตสารและยีนที่หลั่งสารไซโตไคน์
9. น้ำมันปลาช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นเบาหวาน
ในน้ำมันปลามีกรด EPA ที่ทำหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายได้เป็นอย่างดี
10. น้ำมันปลาช่วยลดอาการปวดหัวไมเกรน
น้ำมันปลาจะช่วยทำให้หลอดเลือดขยาย ระบบหมุนเวียนโลหิตทำงานได้ดี และยังช่วยลดสารเซโรโทนินและโพรสตาแกลนดินอีกด้วย
ปริมาณโอเมก้า 3 ที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน
เด็ก 1-13 ปี
สถาบันสุขภาพแห่งชาติ National Institutes of Health (NIH) แนะนำให้เลือกทานในปริมาณ ‘ 500-1,000 mg ‘
ผู้ใหญ่ทั่วไป
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ทาน ‘ 250-500 mg ‘
ผู้หญิงตั้งครรภ์ / ให้นมบุตร
European Food Safety Authority (EFSA) หน่วยงานตรวจสอบความปลอดภัยด้านอาหารแห่งสหภาพยุโรปแนะนำให้ทาน ‘ 250 mg ‘ หรือ ‘ DHA 100-200 mg ‘
ทานเพื่อป้องกันหรือผู้มีปัญหาโรคหัวใจและหลอดเลือด
(ลดความอันตราย ไม่ใช่การรักษา) American Heart Association สมาคมโรคหัวใจแห่งอเมริกาได้แนะนำให้ทาน ‘ 500-1,000 mg ‘
ทานเพื่อลดระดับไตรกลีเซอไรด์
กลุ่ม National Lipid Association ได้แนะนำ ‘ 2,000-4,000 mg ‘
ตามไปทำความรู้จักกับ “ น้ำมันปลา “ มาแล้ว พอได้รู้ว่าน้ำมันปลาเป็นประโยชน์ช่วยบำรุงร่างกายได้ดีเลย โดยเฉพาะในเรื่องของการลดลิ่มเลือดอุดตัน ลดไขมัน บำรุงสมอง สำหรับใครสนใจน้ำมันตับปลายี่ห้อไหนดีสามารถลองหาน้ำมันปลามาลองทานกันได้ค่ะ แต่แนะนำว่าควรศึกษาข้อมูลก่อนซื้อมาทานนะคะ เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพในระยะยาว ทางที่ดีควรทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง จะช่วยได้อย่างมากเลยค่ะ
ข้อมูลอ้างอิง
5 อาหารเสริมน้ำมันปลา ยี่ห้อไหนดี ปี 2566 ให้ได้ประโยชน์จัดเต็ม รีวิวนี้มีคำตอบ ! https://health.kapook.com/view268986.html
น้ำมันปลายี่ห้อไหนดี? แนะนำ 7 แบรนด์น้ำมันปลา ช่วยบำรุงร่างกาย ลดไขมัน https://shopee.co.th/blog/recommended-fish-oil/
คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ
- โทนเนอร์คืออะไร จำเป็นไหม และใช้ตอนไหนดี
- 10 ลายเล็บเจลขับผิว ช่วยให้นิ้วขาว มือดูสวยผ่อง
- โพรไบโอติกส์ (Probiotics) และพรีไบโอติกส์ (Prebiotics) คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร
- เหตุผลที่คุณควรเลือกมาส์กชีทที่พัฒนาสูตรโดยแพทย์ผิวหนังเกาหลี
- 20 ไอเดียทรงผมคนหน้ากลมอ้วนช่วยพรางหน้าให้เรียวเล็ก