โพรไบโอติกคืออะไร พร้อมแนะนำ 7 อาหารที่มีโพรไบโอติก

ใครมีปัญหาการขับถ่ายยากอยู่บ้าง บอกเลยว่านอกจากอาการไม่สบายตัวเวลาท้องผูกแล้ว ปัญหาเรื่องลำไส้ ท้องผูก ขับถ่ายยาก ยังส่งผลต่อสุขภาพร่างกายในหลายด้านเลยนะ

เวลาที่เราไม่ค่อยขับถ่ายอาจจะทำให้เกิดเชื้อโรคสะสมในร่างกาย เกิดกลิ่นปากและกลิ่นตัว ส่งผลต่อโรคทางลำไส้ แถมยังทำให้ผิวเสียได้อีกด้วย

ซึ่งการเลือกทานอาหารก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยฟื้นฟูลำไส้และการขับถ่าย โดยเฉพาะ “อาหารที่มีโพรไบโอติก” ที่เป็นตัวช่วยฟื้นฟูลำไส้ได้ดีเลย

โพรไบโอติกคือ จุลลินทรีย์ขนาดเล็กจัดอยู่ในกลุ่มจุลลินทรีย์ชนิดดี มีคุณสมบัติทนต่อกรดและด่าง โพรไบโอติกจะเข้าไปจับกับเยื่อบุลำไส้ แล้วผลิตสารต่อต้านและกำจัดเชื้อจุลลินทรีย์ชนิดอื่น ๆ ออกไป

Probiotics ช่วยอะไร?

1. ปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ ส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหารและการดูดซึมสารอาหาร
2. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ช่วยให้ร่างกายต้านทานโรคได้ดีขึ้น
3. ลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และท้องผูก โดยช่วยให้ลำไส้ทำงานเป็นปกติ

Probiotics กินตอนไหนดี?

การรับประทานโปรไบโอติกส์ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดนั้นไม่ยากเลยค่ะ

1. กินหลังอาหารเช้า รับประทานโปรไบโอติกส์หลังอาหารเช้าประมาณ 30 นาที เป็นช่วงเวลาที่กระเพาะอาหารมีกรดน้อย จะช่วยให้จุลินทรีย์โปรไบโอติกส์ผ่านไปยังลำไส้ได้ดี
2. กินก่อนนอนตอนกลางคืน การรับประทานก่อนนอนประมาณ 1-2 ชั่วโมง จะช่วยให้โปรไบโอติกส์เคลื่อนผ่านไปยังลำไส้ใหญ่ได้สะดวก เนื่องจากร่างกายไม่ได้ย่อยอาหารในช่วงนี้
3. กินพร้อมอาหารที่มีกากใยสูง อาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผลไม้ ธัญพืช จะช่วยให้โปรไบโอติกส์เจริญเติบโตได้ดี เพราะจุลินทรีย์ดังกล่าวต้องการกากใยเป็นอาหาร
4. หลีกเลี่ยงการรับประทานพร้อมนม นมและผลิตภัณฑ์จากนมบางชนิดอาจทำให้โปรไบโอติกส์ไม่สามารถเจริญเติบโตได้เต็มที่
5. ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานโปรไบโอติกส์พร้อมกับยาปฏิชีวนะ หรือสารฆ่าเชื้ออื่นๆ ซึ่งจะทำลายจุลินทรีย์เหล่านี้

การรับประทานโปรไบโอติกส์อย่างสม่ำเสมอ และในช่วงเวลาที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุด

7 อาหารที่มีโพรไบโอติกสูง

1. โยเกิร์ต

สำหรับใครที่อยากเพิ่มโพรไบโอติก เลือกหยิบโยเกิร์ตมาทานได้เลย เพราะโยเกิร์ตเป็นหนึ่งในอาหารที่มีโพรไบโอติกสูง อุดมไปด้วยจุลลินทรีย์ชนิดดี

และแนะนำอีกนิดว่าถ้าว่าเป็นโยเกิร์ตที่มีโพรไบโอติกมีชีวิต (Live Probiotic หรือ Active Probiotic) จะยิ่งดีต่อระบบย่อยอาหรและระบบภูมิคุ้มกันยิ่งขึ้นด้วย

2. นมเปรี้ยว

ถ้าเกิดไม่อยากกินโยเกิร์ต เครื่องดื่มอย่างนมเปรี้ยว ก็เป็นอีกหนึ่งอาหารที่มีโพรไบโอติกสูง เพราะนมเปรี้ยวคือนมที่ผ่านการหมักจนได้โพรไบโอติกขึ้นมา

ในนมเปรี้ยวก็มีจุลลินทรีย์โพรไบโอติกเหมือนกับโยเกิร์ตอยู่หลายตัวเลย และแน่นอนว่าควรเลือกนมเปรี้ยวที่มีโพรไบโอติกที่มีชีวิต จะดีต่อระบบลำไส้ยิ่งขึ้น

3. คอมบูชา

ตามมาด้วยอีกหนึ่งเครื่องดื่มโพรไบโอติกสูง อย่าง คอมบูชา เครื่องดื่มที่เริ่มเป็นที่นิยมและขึ้นชื่อในเรื่องของการบำรุงลำไส้ เพราะว่าคอมบูชา เป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่ได้มาจากการหมักชาดำหรือชาเขียว เลยอุดมไปด้วยโพรไบโอติกสูง

อาหารที่มีโพรไบโอติกนี้มีทั้งเชื้อจุลลินทรีย์ แบคทีเรีย และยีสต์ชนิดดี แถมยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ กรดแอซีติก และวิตามิน ช่วยบำรุงร่างกายและลำไส้ได้ดีเลย

4. ซุปมิโซะ

สำหรับใครที่อยากเพิ่มโพรไบโอติกในมื้ออาหาร ลองเลือกทานเมนูอาหาร คู่ซุปมิโซะร้อน ๆ ซดคล่องคอดูค่ะ เพราะมิโซะ เป็นอาหารที่มีโพรไบโอติก ที่ทำมาจากถั่งเหลืองหมักกับเกลือ ทำให้เกิดจุลลินทรีย์ชนิดดี แถมมิโซะยังมีเชื้อราชนิดดีอยู่ด้วย

ใครที่ไม่ชอบรสชาติเปรี้ยว หรือกลิ่นของหมักดองแต่อยากเพิ่มโพรไบโอติกให้กับลำไส้ ซุปมิโซะน่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเลย

5. นัตโตะ

ตามมาด้วยเมนูถั่วหมักที่มาพร้อมกับรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายมากมายเลยนะ นอกจากนัตโตะจะเป็นถั่วหมักที่เป็นอาหารที่มีโพรไบโอติก จากการศึกษาหนึ่งยังพบว่าการทานนัตโตะเป็นประจำ ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน และลดความเสี่ยงของโรคหัวใจได้อีกด้วย

6. เทมเป้

นอกจากนัตโตะก็ยังมีเทมเป้ อีกหนึ่งอาหารที่มีโพรไบโอติกที่กำลังเป็นที่นิยม และให้ประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายมากมาย และเทมเป้ยังได้มาจากการหมักถั่วเหลืองเข้ากับเชื้อราที่ดี เทมเป้เลยอุดมไปด้วยโพรไบโอติก ช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดี

แถมเทมเป้ยังเป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีกว่าโปรตีนจากสัตว์ และยังมีคาร์โบไฮเดรตต่ำ เหมาะสุด ๆ สำหรับคนที่อยากดูแลลำไส้ พร้อมกับควบคุมน้ำหนักไปด้วย

7. กิมจิ

ส่วนกิมจิ เมนูเครื่องเคียงอาหารเกาหลียอดฮิตที่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป ก็จัดเป็นอาหารที่มีโพรไบโอติกสูงด้วยเหมือนกัน เพราะกิมจิมีวิธีการทำมาจากการหมักดอง ทำให้เกิดโพรไบโอติกที่ดี

อย่างกรดแลคติกแอซิดแบคทีเรีย (Lactic acid bacteria : LAB), แลคโตบาซิลัส และจุลินทรีย์ที่ดีต่าง ๆ อีกหลายชนิด ที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้ และดีต่อระบบย่อยอาหารด้วย

แนะนำ 7 อาหารเสริมโพรไบโอติก

สำหรับใครที่ไม่ถนัดทานอาหารที่มีโพรไบโอติกอย่างอาหารหมักดอง แต่อยากเพิ่มโพรไบโอติก เพื่อบำรุงลำไส้และระบบขับถ่าย ระบบย่อยอาหาร ยังมีอาหารเสริมโพรไบโอติก ทานเพื่อช่วยปรับปรุงสุขภาพลำไส้อยู่ด้วย จะมีอาหารเสริมแบบไหนบ้าง ลองตามไปดูกัน

1. Bomi 16.8 Balance Probiotics

Bomi 16.8 Balance Probiotics อาหารเสริมที่มีโพรไบโอติก 16 พันล้านตัวจาก 8 สายพันธุ์ และแบคทีเรียดี ช่วยให้สุขภาพลำไส้สมดุล และยังมี Zinc พร้อมกับวิตามินซี

ประโยชน์ของโพรไบโอติกจะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ และเสริมการทำงานของระบบในร่างกาย มาพร้อมกับรสโยเกิร์ต อร่อย ทานง่าย สามารถฉีกซองแล้วทานได้เลย

2. BLACKMORES Probiotics Daily Balance

มาต่ดกันที่ BLACKMORES Probiotics Daily Balance อาหารเสริมที่มีโพรไบโอติก 71.85 พันล้าน ซีเอฟยูต่อกรัม และยังมีอินนูลินอยู่ด้วย ประโยชน์ของโพรไบโอติกนี้จะช่วยฟื้นฟูระบบย่อยอาหารและช่วยบำรุงสุขภาพลำไส้ มาในรูปแบบเม็ด ทานพร้อมกับอาหารวันละ 1 เม็ด

3. INTERPHARMA Probac 7

ตามมาด้วย INTERPHARMA Probac 7 อาหารเสริมโพรไบโอติก สูตร Total Synbiotic ที่ประกอบด้วยประโยชน์ของโพรไบโอติกถึง 6 ชนิด พร้อมกับพรีไบโอติก 1 ชนิด

จัดเป็นอาหารเสริมที่มีประโยชน์ของโพรไบโอติกสูง เป็นตัวช่วยสร้างสมดุลระบบขับถ่าย ช่วยฟื้นฟูการทำงานของลำไส้ บรรเทาอาการลำไส้แปรปรวน ท้องอืด ท้องผูก และท้องเสียเรื้อรัง ช่วยขับอุจจาระตกค้างออกจากร่างกาย

4. BLOSS Natura Jeli Probiotic

ต่อด้วย BLOSS Natura Jeli Probiotic อาหารเสริมที่มีประโยชน์ของโพรไบโอติกสูง อุดมด้วยจุลลินทรีย์กว่า 10 ชนิด มีประโยชน์ต่อร่างกายเมื่อได้รับอย่างเพียงพอ และยังมี GOS กาแลคโตโอลิโกแซคคาไรด์ ไซเลียมฮัสค์ และใยอาหาร ช่วยเพิ่มกากใยในระบบย่อยอาหาร มีส่วนช่วยกระตุ้นและปรับสมดุลการขับถ่ายอีกด้วย

5. MeridLife Total : flora Silver (Yogurt Flavor)

ตามมาด้วย TOTAL flora Silver Probiotic นอกจากประโยชน์ของโพรไบโอติกยังมีพรีไบโอติกผสมมาด้วย มีโพรไบโอติก 16,000 ล้านตัว มีถึง 10 สายพันธุ์ต่อซองและที่สำคัญโพรไบโอติกทุกสายพันธุ์ได้รับการรับรองในระดับสากล

มีเทคโนโลยีของการเคลือบหลายชั้น เพื่อให้จุลินทรีย์มีชีวิตรอดและมีภูมิคุ้มกันเมื่อเข้าสู่ระบบย่อยอาหาร ช่วยระบบย่อยอาหาร และระบบภูมิคุ้มกัน โดยเฉพาะระบบภูมิคุ้มกันของผู้สูงอายุ

6. Linhzhimin PRO10 Probiotics

ต่อด้วย Linhzhimin PRO10 Probiotics อาหารเสริมดีท็อกซ์ลำไส้จากเกาหลี ที่รวมประโยชน์ของโพรไบโอติก 10 ชนิดเข้าด้วยกันในซองเดียว ช่วยลดผลเสียจากการอั้นอุจจาระ ช่วยปรับสมดุลระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย ทั้งยังมีส่วนช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันอยู่ด้วย

7. Dii No.4 P-Acnisol

ตามมาด้วย Dii No.4 P-Acnisol อาหารเสริมที่มีโพรไบโอติกและมีส่วนประกอบของสารสกัดกีวี ข้าวสีดำ สารสกัดใบบัวบก และจุลินทรีย์โพรไบโอติกที่มีประโยชน์ต่อลำไส้

นอกจากจะช่วยดูแลลำไส้แล้ว ประโยชน์ของโพรไบโอติกในวิตามินตัวนี้ยังเหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องสิว วิตามินตัวนี้มีส่วนช่วยสร้างสมดุลไขมันใต้ผิวหนัง ลดการอักเสบ และยังทำให้รอยสิวดูจางลงด้วย

ทำความรู้จักกับโพรไบโอติกและประโยชน์ของโพรไบโอติกมาแล้ว บอกเลยว่าเป็นจุลลินทรีย์ที่ดีต่อร่างกายมาก ๆ เลยนะเนี่ย แถมยังเป็นผลดีต่อลำไส้ ระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย สำหรับคนที่ขับถ่ายยาก มีปัญหาเรื่องลำไส้แนะนำให้ลองเลือกอาหารที่มีโพรไบโอติกมาทานดูแลลำไส้กันด่วน ๆ เลย

คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ

• โทนเนอร์คืออะไร จำเป็นไหม และใช้ตอนไหนดี
• 10 ลายเล็บเจลขับผิว ช่วยให้นิ้วขาว มือดูสวยผ่อง
• โพรไบโอติกส์ (Probiotics) และพรีไบโอติกส์ (Prebiotics) คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร
• เหตุผลที่คุณควรเลือกมาส์กชีทที่พัฒนาสูตรโดยแพทย์ผิวหนังเกาหลี
• 20 ไอเดียทรงผมคนหน้ากลมอ้วนช่วยพรางหน้าให้เรียวเล็ก