โหลดแอปฯ
ดาวน์โหลด:
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอปวัตสัน
  • google-play.png
  • app-store.png
  • app-gallery.png
ค้นหาร้านค้า บทความน่าอ่าน
Watsons Services
0
ตะกร้า
Share

เหงื่อ เป็นของเสียที่ถูกขับจากต่อมเหงื่อออกมาทางผิวหนัง เพื่อช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายลง และในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบประเทศไทย รวมไปถึงการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่เกิดเหงื่อออก ซึ่งในบางครั้งถ้าเกิดเหงื่อออกมาก ๆ ก็อาจจะรบกวนการใช้ชีวิตของเราด้วย ทั้งทำให้เนื้อตัวเหนี่ยวเหนอะ รู้สึกไม่สบายตัว หรือในบางคนอาจจะทำให้ “แพ้เหงื่อ” ตัวเองได้ด้วย แล้วอาการแพ้เหงื่อเกิดขึ้นได้ยังไง? ควรดูแลรักษายังไง? ลองตามไปดูในบทความนี้กันต่อได้เลย

แพ้เหงื่อตัวเอง คืออะไร

อาการแพ้เหงื่อตัวเอง หรือ “โรคผื่นคันจากเหงื่อ” (Cholinergic Urticaria หรือ Heat Hives) ถือว่าเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่ง มักจะมีอาการผื่นคัน ตุ่มใส หรือลมพิษขึ้นบริเวณใบหน้า ลำคอ หรือข้อพับต่าง ๆ ในบริเวณที่เหงื่อออกและอับชื้น และส่วนใหญ่อาการแพ้เหงื่อตัวเองมักจะไม่รุนแรงและสามารถหายเองได้ภายในครึ่งชั่วโมง แต่บางรายอาจมีอาการปากบวม ตาบวม แน่นหน้าอก และหายใจไม่สะดวกร่วมด้วย ซึ่งควรรีบไปพบแพทย์ทันที

แพ้เหงื่อตัวเอง เกิดจากสาเหตุใด?

1. ความร้อนและเหงื่อ

เหงื่อ เป็นของเสียที่ถูกขับจากต่อมเหงื่อออกมาทางผิวหนัง เพื่อช่วยลดอุณหภูมิในร่างกายลง เหงื่อเลยมักจะออกเมื่อร่างกายมีความร้อน ซึ่งเหงื่ออาจทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น ลมพิษ หรือผื่นแดงได้ เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติต่อเหงื่อ ทำให้รู้สึกคันหรือระคายผิวได้

2. สภาพแวดล้อม

สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสารก่อภูมิแพ้ มีส่วนกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ไรฝุ่นได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงถ้ามีอาการพร้อม ๆ กับเหงื่อที่ออก จะทำให้อาการแพ้รุนแรงขึ้นกว่าเดิม และเมื่อเจอมลพิษอย่าง PM 2.5 ด้วยแล้ว อาการแพ้ก็จะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีก

3. โรคผิวหนังเดิม

คนที่เป็นโรคผิวหนัง เช่น ผิวหนังอักเสบ หรือหอบหืด มักจะมีผิวที่บอบบางและแพ้ง่ายมาก เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นอาการแพ้เหงื่อให้เกิดขึ้นได้ เมื่อเหงื่อออกก็จะรู้สึกคันและระคายผิวได้ง่าย ทำให้รู้สึกไม่สบายตัวและส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

4. ผิวบอบบาง แพ้ง่าย

ผิวบอบบางแพ้ง่ายก็เป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้เหงื่อได้ด้วยเหมือนกัน คนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่ายมักมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคแพ้เหงื่อตัวเอง เมื่อเหงื่อออกอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่าย เพราะระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง จึงทำให้เกิดผื่นแดงและคันตามตัวได้

5. สวมเสื้อผ้ารัดแน่น หรือเสื้อผ้าที่ระบายอากาศไม่ดี

อย่างที่บอกไปว่าเหงื่อมักจะออกเยอะเมื่อร่างกายเกิดความร้อน การสวมเสื้อผ้ารัดแน่น หรือเสื้อผ้าที่ระบายอากาศไม่ดี เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่ให้อุณหภูมิของร่างกายเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเหงื่อผสมกับแบคทีเรียบนผิวหนังจะกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองผิดปกติ ส่งผลให้เกิดอาการผื่นแดง คัน หรือลมพิษ

6. การออกกำลังกาย

การออกกำลังกายก็เป็นกิจกรรมที่ช่วยขับเหงื่อได้ดี ถึงแม้ว่าจะเป็นผลดีต่อร่างกาย แต่ในคนที่มีอาการแพ้เหงื่อควรระวังให้ดี เพราะการออกกำลังกายจะเพิ่มอุณหภูมิร่างกายให้สูงขึ้น และขับเหงื่อออกมาเพื่อระบายความร้อน จนไปกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองผิดปกติ ส่งผลให้เกิดอาการผื่นแดง คัน หรือลมพิษ แนะนำให้อาบน้ำให้สะอาดหลังออกกำลังกาย

7. รับประทานอาหารรสเผ็ดจัด

การรับประทานอาหารรสเผ็ดจัด ก็เป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่ทำให้ร่างกายเพิ่มอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกเยอะ เพื่อระบายความร้อน การกินอาหารรสเผ็ดจัดเลยเป็นหนึ่งในปัจจัยที่อาจจะกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้เหงื่อขึ้นได้ด้วย

8. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ

ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีส่วนผสมเอธานอล สิ่งเจือปน และสารกันบูดอื่นๆ อีกมากมาย สารเหล่านี้มีส่วนกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ขึ้นได้ สำหรับใครที่มีอาการแพ้ ควรเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่าง ๆ ลง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้เหงื่อ หรืออาการแพ้อื่น ๆ ตามมา

9. ยาบางชนิด เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ปวด

การใช้ยาบางชนิดเพื่อระงับโรค เช่น ยาลดไข้ ยาแก้ปวดหรือมอร์ฟีน ยาบำบัดภาวะร่างกายพร่องไทรอยด์ฮอร์โมน ฯลฯ ยาเหล่านี้มีส่วนทำให้เหงื่อออกได้ และเมื่อเหงื่อผสมกับแบคทีเรียบนผิวหนังจะกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองผิดปกติ ส่งผลให้เกิดอาการผื่นแดง คัน หรือลมพิษ

10. ความเครียด

สภาวะทางอารมณ์ เช่น ความกลัว ความเครียด ก็มีส่วนกระตุ้นให้เหงื่อออก เลยเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีโอกาสทำให้เกิดอาการแพ้เหงื่อขึ้นมาได้ เมื่อเครียดแนะนำให้อาบน้ำ หรือหาเครื่องดื่มเย็น ๆ สดชื่นดื่มให้สบายใจ เพื่อลดอุณหภูมิร่างกายลง และลดโอกาสการเกิดเหงื่อ

11. โรคประจำตัว เช่น โรคภูมิแพ้ผิวหนัง โรคหอบหืด

อาการแพ้เหงื่อสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่ผู้ที่มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น คือผู้ที่มีประวัติของโรคภูมิแพ้ เป็นภูมิแพ้ผิวหนัง หรือภูมิแพ้อื่น ๆ เช่นผู้ที่มีอาการแพ้อากาศ เป็นโรคหอบหืด การแพ้อาหาร หรือมีประวัติภูมิแพ้ในครอบครัว ก็จะมีปัจจัยทำให้เกิดอาการแพ้เหงื่อได้มากขึ้น

อาการแพ้เหงื่อตัวเองทำให้เกิดผื่นแดงคัน

แพ้เหงื่อตัวเองอันตรายไหม

ความอันตรายของอาการแพ้เหงื่อ ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ โดยปกติแล้วอาการแพ้เหงื่อตัวเองจะหายได้เองในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง เลยไม่ถือว่าเป็นอันตรายมากนัก แต่ถ้าเกิดมีอาการผื่นแดงคันก็ยังไม่หายไปภายใน 1 ชั่วโมง หรือมีอาการวิงเวียนศีรษะ หายใจลำบากร่วมด้วย ควรรีบพบแพทย์โดยด่วน เพราะถือว่าเป็นสัญญาณบ่งบอกอาการรุนแรง

อาการแบบไหนเรียกว่า “แพ้เหงื่อตัวเอง”

สำหรับอาการแพ้เหงื่อตัวเอง จะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายสูญเสียความร้อน จึงทำให้เกิดผื่นแดงคัน บริเวณลำตัว, คอ, ใบหน้า, รักแร้, ขาหนีบ และข้อพับต่าง ๆ ของร่างกาย หลังจากเหงื่อออกได้ไม่นานและมักจะเป็นราว 30 นาทีก็ค่อย ๆ หายเอง โดยจะมีลักษณะดังนี้

1. ผื่นแดง คัน บริเวณที่มีเหงื่อ

อาการแพ้เหงื่อตัวเองเป็นโรคผิวหนังชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายสูญเสียความร้อน จึงทำให้เกิดผื่นแดงคันหลังจากเหงื่อออก ในบริเวณที่มักจะเกิดผื่นแพ้เหงื่อ เช่น ใบหน้า ลำคอ หน้าอก แผ่นหลัง แขน ขา รักแร้ ขาหนีบ ขอพับต่าง ๆ ของร่างกาย

2. ตุ่มใส คัน คล้ายอาการอีสุกอีใส

นอกจากผื่นคันอาจจะมีอาการตุ่มใส คัน คล้ายอาการอีสุกอีใส ซึ่งอาจจะรักษาด้วยการกินยาแก้แพ้ หรือการรักษาด้วยการทายา ยาทาแพ้เหงื่อตัวเอง เช่น ครีมคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) เป็นยาที่ใช้เพื่อบรรเทาอาการระคายผิว บรรเทาอาการอักเสบ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง และควรอยู่ในคำแนะนำของแพทย์

3. ลมพิษ บวมแดง คัน เป็นปื้นนูนแดง วงกลมหนานูน

รวมไปถึงอาการแพ้เหงื่อตัวเอง อาจจะทำให้เกิดลมพิษ บวมแดง คัน เป็นปื้นนูนแดง วงกลมหนานูน ซึ่งอาจจะรักษาได้ด้วยการอาบน้ำเย็น หรือประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการคัน หรือการทานยาแก้แพ้ เช่น กลุ่มยาต้านฮีสตามีนชนิดที่ไม่ทำให้ง่วง (None-sedation antihistamines) และควรอยู่ในการดูและและคำแนะนำของแพทย์

4. อาการคล้ายมีไข้

นอกจากอาการผื่นแดง คัน บริเวณที่มีเหงื่อ เกิดตุ่มใส คัน คล้ายอาการอีสุกอีใส หรือเป็นลมพิษ บวมแดง คัน เป็นปื้นนูนแดง วงกลมหนานูน ในบางคนอาจจะมีอาการคล้ายมีไข้ร่วมด้วย ซึ่งถ้ามีอาการรุนแรงควรรีบไปพบแพทย์ทันที

คนที่เป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังมักมีโอกาสแพ้เหงื่อตัวเองมากกว่าคนอื่น ๆ

ใครเสี่ยงต่อการเกิดโรคแพ้เหงื่อ?

ในคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนัง หรือ Atopic Dermatitis (AD) และคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังมักมีผิวแห้ง คัน อักเสบ และเป็นผื่นเรื้อรัง ทำให้มีโอกาสที่จะเกิดอาการแพ้เหงื่อมากกว่าคนอื่น ๆ และอาจทำให้อาการของโรคภูมิแพ้ผิวหนังรุนแรงมากขึ้น คนที่เป็นโรคเหล่านี้จึงควรระมัดระวังอากาศร้อน และควรสวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี

วิธีรักษาอาการผื่นคัน แพ้เหงื่อง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

1. การรักษาด้วยการทายา

สำหรับอาการที่เกิดจากการแพ้เหงื่อ เช่น ผื่นแดงคัน สามารถรักษาได้ด้วยการทายา อย่างยาทาแพ้เหงื่อตัวเอง เช่น ครีมคอร์ติโคสเตียรอยด์ (Corticosteroid) เป็นยาที่ใช้เพื่อบรรเทาอาการระคายผิว บรรเทาอาการอักเสบ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนัง ช่วยไม่ให้ผิวหนังบาง

2. การรักษาด้วยการรับประทานยา

นอกจากการทานยา อาการแพ้เหงื่อก็สามารถรักษาได้ด้วยการทานยา แพทย์อาจจะสั่งยายารับประทานให้ อย่างยาแก้แพ้สามารถยับยั้บสารฮีสตามีน (Histamine) ที่ทำให้เกิดอาการแพ้ บรรเทาอาการแพ้เหงื่อตัวเอง ทำให้อาการแพ้ค่อย ๆ ลดลง

3. ยาฉีดรักษาแพ้เหงื่อตัวเอง

อาการแพ้เหงื่อสามารถรักษาด้วยการฉีดยาด้วย ซึ่งยาฉีดรักษาอาการแพ้เหงื่อตัวเอง แพทย์จะฉีดยาอะดรีนาลีน (Adrenaline) สำหรับในผู้ป่วยรายที่มีอาการแพ้รุนแรงเท่านั้น ยาจะช่วยขยายช่องทางเดินหายใจแก้อาการหายใจไม่ออก

อาการแพ้เหงื่อตัวเอง

12 เคล็ดลับดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากโรคแพ้เหงื่อ

1. อาบน้ำเพื่อชำระสิ่งสกปรกวันละ 2 ครั้ง

สภาพแวดล้อมภายนอก มลพิษ ฝุ่นควัน ต่าง ๆ อาจทำให้มีสิ่งสกปรกติดตัวเรามาด้วย รวมไปถึงเหงื่อจากร่างกายตัวเราเอง ทำให้เป็นผื่นแพ้เหงื่อขึ้นได้ เพื่อป้องกันอาการแพ้เหงื่อตัวเอง จึงควรอาบน้ำเพื่อชำระสิ่งสกปรกวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและก่อนนอน

2. เลือกครีมอาบน้ำ หรือสบู่ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์

ลองเลือกเลือกครีมอาบน้ำ หรือสบู่ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิว เพราะมอยส์เจอไรเซอร์ เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวหนัง และช่วยลดการสูญเสียน้ำของผิว ทำให้ผิวดูแข็งแรง เต่งตึง ผิวเรียบเนียน ไม่แห้งลอก และระคายเคืองที่อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการแพ้เหงื่อตัวเองขึ้นได้

3. สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี

สาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้เหงื่อตัวเองขึ้นได้ ก็คือาการสวมเสื้อผ้าที่รัดแน่น ไม่ระบายอากาศ ทำให้ร่างกายมีอุณภมิเพิ่มขึ้นสูง และขับเหงื่อออกมาเพื่อระบายความร้อน จึงควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เพื่อลดโอกาสไม่ให้เหงื่อออกได้ง่ายขึ้น

4. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อ

การที่เหงื่อออกมักจะมาจากอุณหภูมิร่างกายที่เพิ่มสูง จนขับเหงื่อออกมาระบายความร้อน การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หรือดื่มน้ำประมาณ 1.5-2 ลิตรต่อวัน ช่วยลดอุณภูมิของร่างกาย นอกจากนั้นยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ป้องกันอาการภูมิตก เกิดอาการแพ้เหงื่อไปด้วย

5. หลีกเลี่ยงอาหารรสเผ็ดจัด

การกินอาหารรสเผ็ดจัดเลยเป็นหนึ่งในปัจจัยที่อาจจะกระตุ้นให้เหงื่อเยอะ และเกิดอาการแพ้เหงื่อตัวเองขึ้นได้ด้วย จึงควรเลี่ยงอาหารเผ็ดจัด ของแซ่บเอาไว้ก่อน โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน เพื่อลดโอกาสเหงื่อออกจนทำให้เกิดอาการแพ้เหงื่อ

6. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดต่างๆ ยังมีส่วนผสมเอธานอล สิ่งเจือปน และสารกันบูดอื่นๆ อีกมากมาย ที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ รวมไปถึงคาเฟอีนก็มีส่วนกระตุ้นอาการแพ้ในร่างกาย สำหรับใครที่มีอาการแพ้ ควรเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีนลง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้เหงื่อ และอาการแพ้อื่น ๆ

7. ผ่อนคลายความเครียด และความวิตกกังวล

สภาวะทางอารมณ์ เช่น ความกลัว ความเครียด ก็มีส่วนกระตุ้นให้เหงื่อออก เลยเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีโอกาสทำให้เกิดอาการแพ้เหงื่อตัวเองขึ้นมาได้ แนะนำให้ผ่อนคลายความเครียดลง อยู่ในที่อากาศปลอดโปร่ง เพื่อให้จิตใจสงบ คลายความวิตกกังวล หรืออาบน้ำลดอุณหภูมิร่างกาย เพื่อลดโอกาสเหงื่อออก

8. ออกกำลังกายในที่ที่อากาศเย็นสบาย หรือออกกำลังกายเบา ๆ

การออกกำลังกายทำให้ขับเหงื่อ เมื่ออุณหภูมิของร่างกายเพิ่มสูงขึ้น ร่างกายจะขับเหงื่อออกมาเพื่อช่วยระบายความร้อน จึงควรออกกำลังกายในที่ที่อากาศเย็นสบาย หรือออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อไม่ให้เหงื่อออกมา และควรอาบน้ำให้สะอาดหลังออกกำลังกาย เพื่อไม่ให้เป็นการสะสมของเหงื่อ

9. งดการอาบน้ำอุ่น สครับผิว และซาวน่า

งดการอาบน้ำอุ่น สครับผิว และซาวน่า เพราะการอาบน้ำอุ่น หรือซาวน่า ผิวต้องเจอกับความร้อน การสครับผิว ด้วยการขัดถูผิวหนัง สิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้ผิวแห้งและไวต่อการระคายเคืองมากขึ้น แนะนำให้เลี่ยงการสครับผิว ซาวน่า และควรอาบน้ำอุณภูมิปกติ

10. ประคบเย็นบริเวณที่มีผื่นคัน หรือใช้เจลว่านหางจระเข้ทา

ลองใช้ผ้าสะอาดห่อน้ำแข็ง หรือผ้าชุบน้ำเย็น แล้วนำไปประคบบริเวณที่มีผื่นคัน 10-15 นาที จะสามารถช่วยบรรเทาอาการปวด บวม อักเสบ และอาการคันของผิวหนังได้ เนื่องจากความเย็นจะช่วยชะลอการไหลเวียนของเลือดบริเวณผิวหนัง และว่านหางจระเข้ ก็มีคุณสมบัติช่วยบรรเทาอาการผื่นคันอีกด้วย

11. รับประทานยาแก้แพ้

สำหรับคนที่มีอาการแพ้ สามารถบรรเทาอาการแพ้และผื่นคันได้ด้วย การรับประทานยาแก้แพ้ เนื่องจากยาแก้แพ้สามารถยับยั้บสารฮีสตามีน (Histamine) ที่ทำให้เกิดอาการแพ้ บรรเทาอาการแพ้เหงื่อตัวเอง ทำให้อาการแพ้ค่อยๆ ลดลง

12. บำรุงผิวด้วยโลชั่นสูตรอ่อนโยน

เมื่อผิวแห้งและเกิดอาการระคายเคือง อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้เหงื่อขึ้นมาได้ ลองใช้โลชั่นในการบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและแข็งแรง และแนะนำให้เลือกเป็นโลชั่นสูตรอ่อนโยน เหมาะกับทุกสภาพผิว รวมไปถึงผิวบอบบางแพ้ง่าย ตัวครีมช่วยปลอบประโลมผิว ลดอาการระคายผิว พร้อมคืนความชุ่มชื้นให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้นได้ด้วย

อาการแพ้เหงื่อตัวเอง ถึงแม้ว่าจะเป็นอาการแพ้ที่ไม่รุนแรง และสามารถหายได้เอง แต่ถ้าเกิดอาการแพ้แล้วคงรบกวนการใช้ชีวิตอยู่มากเหมือนกัน สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีความเสี่ยงเกิดอาการแพ้ เช่นเป็นโรคภูมิแพ้ แนะนำให้เลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก และควรดูแลสุขภาพผิวให้ชุ่มชื้นและแข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีความอ่อนโยน เพื่อลดโอกาสผิวเกิดอาการแพ้เหงื่อ และอาการแพ้อื่น ๆ ด้วย

ข้อมูลอ้างอิง
https://www.care.co.th/blogs/symptoms-of-sweat-rash-and-prevention
https://www.bioderma.co.th/your-skin/sensitive-skin/cholinergic-urticaria
https://www.si.mahidol.ac.th/th/healthdetail.asp?aid=1466
https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/infographic/%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%9C%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD-%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7/

คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ

Previous

เหงือกบวมเกิดจากอะไร หายเองได้ไหม แบบไหนควรพบแพทย์

Next

โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อราเกิดจากอะไร มารู้สาเหตุ อาการ และการรักษากัน

Related Topics
Share
WHAT’S HOT
  1. 10 ร้านเสื้อผ้าในไอจีราคาถูก หลักร้อย ไม่ตกเทรนด์
  2. 12 สกินแคร์จาก CICA ส่วนผสมช่วยลดสิว ผิวระคายเคือง
  3. 10 สถานที่ขอพรเรื่องความรัก ช่วยคนโสดไม่ให้นก
  4. 15 ครีมบำรุงผิวขาว และครีมทาผิวขาวยี่ห้อไหนดี 2025
  5. แต่งหน้าเป๊ะปังด้วยเมคอัพ ชิ้นที่สอง1บาท
  6. ยาทาแผลในปาก คืออะไร ยาทาปากแก้ร้อนในมีกี่ประเภท
  7. ผมร่วงเยอะมากเกิดจากอะไร มารู้สาเหตุ และวิธีแก้ผมร่วงกัน
  8. โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อราเกิดจากอะไร มารู้สาเหตุ อาการ และการรักษากัน
  9. แพ้เหงื่อตัวเอง โรคแพ้เหงื่อ มีอาการและวิธีดูแลรักษาอย่างไร
  10. หูอื้อข้างเดียวไม่หาย หูอื้อบ่อย แก้ยังไงให้ไม่กวนใจ
  11. ท้องเสียห้ามกินอะไร คนท้องเสียควรกินอะไรบ้าง
*/?>