โหลดแอปฯ
ดาวน์โหลด:
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอปวัตสัน
  • google-play.png
  • app-store.png
  • app-gallery.png
ค้นหาร้านค้า บทความน่าอ่าน
Watsons Services
0
ตะกร้า
Share

โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อราเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในประเทศที่มีอากาศร้อนชื้น โดยเฉพาะบริเวณผิวหนัง ที่มีเหงื่อออกมาก หรือบริเวณที่มีการเสียดสีกัน เช่น ซอกพับต่างๆ ของร่างกาย การติดเชื้อราที่ผิวหนัง สามารถก่อให้เกิดอาการคัน ผื่นแดง และความรำคาญ แต่หากได้รับการวินิจฉัยและการรักษาที่ถูกต้อง ก็สามารถหายได้โดยไม่ทิ้งร่องรอย

โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อราคืออะไร?

โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อราคืออะไร?

โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา (Fungal Dermatitis) เป็นการติดเชื้อราที่ผิวหนังชั้นนอก ทำให้เกิดการอักเสบ คัน และมีผื่นแดง โดยเชื้อราผิวหนังสามารถเจริญเติบโตได้ดีในสภาวะ ที่มีความชื้น และอุณหภูมิที่เหมาะสม มักพบในผู้ที่เหงื่อออกมาก ผู้ที่สวมเสื้อผ้าอับชื้น หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ทำให้เชื้อราสามารถ เจริญเติบโตและก่อให้เกิดการอักเสบของผิวหนังได้

เชื้อราผิวหนังมีกี่ประเภท

เชื้อราที่ก่อให้เกิดโรคผิวหนังในมนุษย์แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ 

  • เชื้อราเดอร์มาโตไฟต์ (Dermatophytes) ซึ่งมักก่อโรคกลาก เกลื้อน 
  • เชื้อรายีสต์ (Yeasts) เช่น แคนดิดา ที่ทำให้เกิดตุ่มแดงคันตามร่องผิวหนัง 
  • เชื้อราผิวหนังชนิดฝังลึก (Deep fungi) ที่สามารถแทรกซึม เข้าสู่ชั้นผิวหนังลึกและอวัยวะภายใน โดยพบได้น้อยแต่มีความรุนแรงมากกว่าชนิดอื่น

สาเหตุของโรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา

เชื้อราผิวหนังมักเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้:

1.สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อราผิวหนัง

อากาศที่มีความร้อนและความชื้นสูง

การอับชื้น เช่น เสื้อผ้าที่ไม่แห้งสนิท ห้องน้ำที่มีไอน้ำสะสม

การระบายอากาศไม่ดี 

2.พฤติกรรมเสี่ยงเชื้อราผิวหนัง

การสวมเสื้อผ้าเปียกชื้นเป็นเวลานาน

การไม่เช็ดตัวให้แห้งหลังอาบน้ำ

การใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น

3.สภาวะร่างกาย

ภูมิคุ้มกันต่ำ

เป็นโรคเบาหวาน

มีเหงื่อออกมาก

อาการของโรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา

เมื่อเกิดผื่นเชื้อราจะมีลักษณะดังนี้:

  • ผื่นแดงเป็นวงกลมหรือวงรี
  • มีขอบนูนชัดเจน
  • คันมาก โดยเฉพาะเวลากลางคืน
  • ผิวหนังลอก แห้ง หรือแตก
  • อาจมีตุ่มน้ำเล็กๆ
  • สีผิวบริเวณที่เป็นอาจเข้มขึ้น

การรักษาโรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา


1. การรักษาด้วยยา

  • ยาทาฆ่าเชื้อราผิวหนัง 
    • ครีมหรือโลชั่นที่มีส่วนผสมของ Clotrimazole
    • ครีมที่มีส่วนผสมของ Miconazole
    • ยาทาที่มีส่วนผสมของ Ketoconazole

  • ยารับประทาน (กรณีที่เป็นรุนแรง) 
    • ต้องได้รับการวินิจฉัยและสั่งจ่ายโดยแพทย์
    • ทานตามระยะเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัด

2. การดูแลตนเอง

  • รักษาความสะอาดบริเวณที่เป็นผื่นเชื้อรา
  • เช็ดผิวให้แห้งหลังอาบน้ำทุกครั้ง
  • สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
  • หลีกเลี่ยงการเกาบริเวณที่มีอาการคัน
  • เปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อเปียกชื้น


การป้องกันโรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา

1.การดูแลสุขอนามัย

อาบน้ำและเช็ดตัวให้แห้งทุกครั้ง เนื่องจากเชื้อราชอบเจริญเติบโตในที่ชื้นและอับ ควรใช้ผ้าขนหนูที่สะอาดซับตัวให้แห้ง โดยเฉพาะบริเวณซอกพับต่างๆ เช่น ซอกขาหนีบ ใต้ราวนม ข้อพับ และซอกนิ้ว หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่เปียกชื้น และควรตากเสื้อผ้าให้แห้งในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง เพื่อฆ่าเชื้อราที่อาจติดอยู่ตามเสื้อผ้า

เปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อเปียกชื้น
โดยเฉพาะหลังเหงื่อออกหรือเปียกน้ำ ควรรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกชื้นทันที เพราะความชื้นเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เชื้อราเจริญเติบโต นอกจากนี้ควรสวมใส่เสื้อผ้า ที่ระบายอากาศได้ดี หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป และควรตากเสื้อผ้าให้แห้งสนิท ก่อนนำมาสวมใส่

ซักเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวให้สะอาด
ควรซักเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว และชุดชั้นในด้วยผงซักฟอก ที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อ ตากแดดให้แห้งสนิท ไม่ควรใช้เสื้อผ้าที่เปียกชื้น หรือมีเหงื่อออก และหลีกเลี่ยงการใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เพราะอาจเสี่ยงต่อการ ติดเชื้อราได้ นอกจากนี้ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกครั้งหลังออกกำลังกายหรือเหงื่อออกมาก

2.การเลือกเสื้อผ้า

สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
ควรเลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่ระบาย อากาศได้ดี เลือกใช้ผ้าที่มีคุณสมบัติซึมซับเหงื่อและแห้งเร็ว เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน หลีกเลี่ยงการสวมเสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป และไม่ควรใส่เสื้อผ้าที่เปียกชื้นติดตัวเป็นเวลานาน ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีหลังออกกำลังกายหรือเหงื่อออกมาก และซักทำความสะอาดเสื้อผ้า ให้แห้งสนิทก่อนนำมาสวมใส่

หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้ารัดรูป
เนื่องจากเสื้อผ้าที่คับหรือรัดแน่นเกินไปจะทำให้อับชื้น เหงื่อไม่สามารถระเหยได้ดี สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา ควรเลือกใส่เสื้อผ้าที่หลวม สบาย ระบายอากาศได้ดี ทำจากวัสดุธรรมชาติเช่นผ้าฝ้าย เป็นต้น

เลือกใช้ผ้าที่ซับเหงื่อได้ดี
ควรเลือกผ้าที่มีคุณสมบัติซับเหงื่อได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน หรือผ้าที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี ระบายอากาศ และไม่ควรใส่เสื้อผ้าที่เปียกชื้น ติดตัวเป็นเวลานาน โดยเฉพาะหลังออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา ควรรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที เพราะความชื้นที่สะสมบนผิวหนังเป็นเวลานานจะเป็นแหล่งเพาะเชื้อราได้ดี

3.การดูแลสภาพแวดล้อม

จัดการพื้นที่ให้แห้ง ไม่อับชื้น
เริ่มจากการจัดการ ให้บ้านมีอากาศถ่ายเทสะดวก เปิดหน้าต่างให้แสงแดดส่องถึง โดยเฉพาะในห้องน้ำ ควรติดพัดลมดูดอากาศเพื่อระบายความชื้น หมั่นทำความสะอาดพื้น และผนังด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ ตรวจสอบการรั่วซึมของน้ำและซ่อมแซมทันที ใช้ที่ดูดความชื้นในตู้เสื้อผ้า และเก็บของใช้ในที่แห้ง ไม่วางสิ่งของทับถมจนอากาศไม่ถ่ายเท เพราะความชื้นสะสม จะเป็นแหล่งเพาะเชื้อราได้

ทำความสะอาดพื้นที่เสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ
ควรทำความสะอาดพื้นที่เสี่ยงอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะบริเวณ ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และบริเวณที่มีน้ำขัง ควรเช็ดพื้นให้แห้งทุกครั้ง หลังใช้งาน หมั่นทำความสะอาดเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว และรองเท้า ตากให้แห้งสนิท ก่อนนำมาใช้ เพื่อลดความเสี่ยงในการเจริญเติบโตของเชื้อรา

เมื่อไหร่ควรพบแพทย์?

ควรพบแพทย์เมื่อมีอาการต่อไปนี้:

  • รักษาด้วยยาทาแล้วไม่ดีขึ้นใน 2 สัปดาห์
  • ผื่นลุกลามเป็นบริเวณกว้าง
  • มีการติดเชื้อแทรกซ้อน
  • มีไข้หรืออาการอื่นๆ ร่วมด้วย
  • เป็นผู้ป่วยเบาหวานหรือมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง

สรุป

โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อรา เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยแต่สามารถป้องกันและรักษาได้ การดูแลสุขอนามัยที่ดีและการรักษาอย่างถูกวิธีจะช่วยให้อาการดีขึ้นและป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ หากมีอาการรุนแรงควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนการปรึกษาแพทย์ได้ หากมีอาการผิดปกติควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสม

หากต้องการปรึกษาเภสัชเพื่อรับคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ แอดเลยที่นี่ Watsons Pharmacist

คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ

Previous

แพ้เหงื่อตัวเอง โรคแพ้เหงื่อ มีอาการและวิธีดูแลรักษาอย่างไร

Next

ผมร่วงเยอะมากเกิดจากอะไร มารู้สาเหตุ และวิธีแก้ผมร่วงกัน

Related Topics
Share
WHAT’S HOT
  1. 10 ร้านเสื้อผ้าในไอจีราคาถูก หลักร้อย ไม่ตกเทรนด์
  2. 12 สกินแคร์จาก CICA ส่วนผสมช่วยลดสิว ผิวระคายเคือง
  3. 10 สถานที่ขอพรเรื่องความรัก ช่วยคนโสดไม่ให้นก
  4. 15 ครีมบำรุงผิวขาว และครีมทาผิวขาวยี่ห้อไหนดี 2025
  5. แต่งหน้าเป๊ะปังด้วยเมคอัพ ชิ้นที่สอง1บาท
  6. ยาทาแผลในปาก คืออะไร ยาทาปากแก้ร้อนในมีกี่ประเภท
  7. ผมร่วงเยอะมากเกิดจากอะไร มารู้สาเหตุ และวิธีแก้ผมร่วงกัน
  8. โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อราเกิดจากอะไร มารู้สาเหตุ อาการ และการรักษากัน
  9. แพ้เหงื่อตัวเอง โรคแพ้เหงื่อ มีอาการและวิธีดูแลรักษาอย่างไร
  10. หูอื้อข้างเดียวไม่หาย หูอื้อบ่อย แก้ยังไงให้ไม่กวนใจ
  11. ท้องเสียห้ามกินอะไร คนท้องเสียควรกินอะไรบ้าง
*/?>