โหลดแอปฯ
ดาวน์โหลด:
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอปวัตสัน
  • google-play.png
  • app-store.png
  • app-gallery.png
ค้นหาร้านค้า บทความน่าอ่าน
Watsons Services
0
ตะกร้า
Share

ปัญหาผมร่วงเป็นความกังวลที่พบได้บ่อยทั้งในผู้ชาย และผู้หญิง โดยในแต่ละวันเราสามารถ พบผมร่วงได้ประมาณ 50-100 เส้น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่หากพบว่ามีผมร่วงเยอะมากกว่าปกติ  ซึ่งอาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงถึงปัญหาสุขภาพที่เราควรใส่ใจ ทั้งนี้สาเหตุของผมร่วงมีได้หลายประการ ตั้งแต่กรรมพันธุ์ ฮอร์โมน ความเครียด การขาดสารอาหาร ไปจนถึงโรคบางชนิด การทำความเข้าใจถึงสาเหตุของผมร่วง จะช่วยให้เราสามารถเลือกวิธีการรักษา และป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุด

วงจรการเจริญของเส้นผม

วงจรการเจริญของเส้นผมแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ 

  1. ระยะเจริญเติบโต (Anagen phase) ซึ่งเส้นผมจะมีการเจริญเติบโตต่อเนื่องประมาณ 2-6 ปี
  2. ระยะหยุดการเจริญเติบโต (Catagen phase) เป็นช่วงที่เส้นผมหยุดการเจริญเติบโต และเตรียมหลุดร่วง ใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ 
  3. ระยะพัก (Telogen phase) เป็นระยะที่รากผมพักตัวก่อนที่จะเริ่มสร้างเส้นผมใหม่ ใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน

ผมร่วงเยอะเกิดจากอะไร? สาเหตุหลักที่คุณต้องรู้

1. ปัจจัยทางพันธุกรรม

  • ประวัติครอบครัวมีปัญหาผมร่วง
  • ฮอร์โมนเพศชาย DHT มีบทบาทสำคัญในการทำให้เกิดปัญหาผมร่วง
  •  ผมร่วงที่เพิ่มขึ้นตามอายุ

2. ความเครียดและการพักผ่อน

  • ความเครียดสะสม
  • การนอนดึกเป็นประจำ
  • การพักผ่อนไม่เพียงพอ

3. ปัญหาสุขภาพ

  • ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ที่ผิดปกติ
  • โรคผิวหนังศีรษะ
  • ภาวะโลหิตจาง
  • ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ

4. พฤติกรรมการดูแลเส้นผม

  • การใช้ความร้อนกับเส้นผมบ่อยเกินไป
  • การรัดผมแน่นเกินไป
  • การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง

ลักษณะแบบไหนที่เรียกว่าผมร่วงผิดปกติ

หากสังเกตพบลักษณะอาการต่อไปนี้ถือว่าผิดปกติ เช่น

  • ผมร่วงมากกว่า 100 เส้นต่อวัน 
  • เห็นหนังศีรษะชัดเจนขึ้น 
  • ผมบางลงอย่างเห็นได้ชัด 
  • มีผมร่วงเป็นหย่อมๆ หรือพบผมร่วงร่วมกับอาการคันศีรษะ มีรังแค หรือมีแผลที่หนังศีรษะ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม

ผมร่วงมีกี่ประเภท

ผมร่วงแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือผมร่วงแบบชั่วคราว และผมร่วงแบบถาวร โดยผมร่วงแบบชั่วคราวมักเกิดจากปัจจัยภายนอกที่สามารถแก้ไขได้ เช่น ความเครียด การขาดสารอาหาร ฮอร์โมนแปรปรวน หรือผลข้างเคียงจากยา ส่วนผมร่วงแบบถาวรมักเกิดจากพันธุกรรม หรือความผิดปกติ ของระบบภูมิคุ้มกัน เช่น ผมร่วงแบบศีรษะล้าน (Androgenic Alopecia) หรือโรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) ซึ่งต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

วิธีแก้ไขปัญหาผมร่วงอย่างได้ผล

1. การดูแลด้วยผลิตภัณฑ์เฉพาะทาง

การเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ผลิตภัณฑ์ที่ควรเลือกใช้ ได้แก่

  • แชมพูลดผมร่วงที่มีส่วนผสมของ Minoxidil
  • เซรั่มบำรุงรากผม
  • วิตามินบำรุงเส้นผมชนิดรับประทาน

2. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

เพื่อลดปัญหาผมร่วงเยอะมาก ควรปฏิบัติดังนี้

  • นอนหลับให้เพียงพอ (7-8 ชั่วโมงต่อคืน)
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อเส้นผม
  • ลดการใช้ความร้อนกับเส้นผม
  • หลีกเลี่ยงการรัดผมแน่นเกินไป

3. การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์

ที่สามารถช่วยลดปัญหาผมร่วงได้

  • โปรตีนคุณภาพดี
    โปรตีนคุณภาพดีเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยบำรุงเส้นผม และรากผมให้แข็งแรง เนื่องจากเส้นผม ประกอบด้วยโปรตีนประเภทเคราติน การรับประทานอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพสูงจึงช่วยซ่อมแซม และสร้างเส้นผมใหม่ได้ แหล่งโปรตีนที่ดี ได้แก่ ปลา ไข่ เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ถั่วเมล็ดแห้ง และผลิตภัณฑ์จากนม นอกจากนี้โปรตีนจากปลายังมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงหนังศีรษะ และกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมอีกด้วย
  • ไบโอติน
    ไบโอติน (Biotin) หรือวิตามินบี 7 เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโต ของเส้นผม และการรักษาสุขภาพผม สามารถพบได้ในอาหารหลายชนิด เช่น ไข่แดง ตับ ถั่วต่าง ๆ เมล็ดทานตะวัน อะโวคาโด ปลาแซลมอน โยเกิร์ต และธัญพืชไม่ขัดสี การรับประทานอาหารที่มี ไบโอตินเพียงพอจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้เส้นผม ลดการหลุดร่วง และกระตุ้นการเจริญ เติบโตของเส้นผมใหม่ได้
  • วิตามินบี
    วิตามินบีเป็นกลุ่มวิตามินที่มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม นอกจากวิตามินบี 7 หรือไบโอตินแล้ววิตามินบี 5 หรือแพนโทธีนิก แอซิด ยังช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากผม สามารถพบได้ในอาหารหลากหลายชนิด เช่น ไข่ ปลา เนื้อสัตว์ ถั่ว ธัญพืช ผักใบเขียว และยีสต์ การรับประทานอาหารที่มีวิตามินบีครบถ้วน จะช่วยบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง ลดการหลุดร่วง
  • ธาตุเหล็ก
    ธาตุเหล็กมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม เพราะช่วยในการลำเลียงออกซิเจน ไปเลี้ยงรากผม การรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น เนื้อสัตว์แดง ตับ ไข่แดง ผักใบเขียวเข้ม ถั่วต่างๆ และธัญพืชเสริมธาตุเหล็ก นอกจากนี้ควรรับประทานร่วมกับอาหารที่มีวิตามินซี เพื่อช่วยในการ ดูดซึมธาตุเหล็กได้ดียิ่งขึ้น
  • สังกะสี
    สังกะสีเป็นแร่ธาตุสำคัญที่ช่วยบำรุงเส้นผม และหนังศีรษะ โดยมีบทบาทในการสร้างโปรตีน และคอลลาเจนที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของเส้นผมอาหารที่มีสังกะสีสูง ได้แก่ เนื้อสัตว์ หอยนางรม ถั่วเมล็ดแห้ง เมล็ดฟักทอง งา และธัญพืชไม่ขัดสี การรับประทานอาหารเหล่านี้เป็นประจำจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรง ให้เส้นผมและลดปัญหาผมร่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • วิตามินดี
    วิตามินดีมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์รากผม เราสามารถได้รับวิตามินดีจากอาหารหลายชนิด เช่น ปลาทะเลที่มีไขมันสูง (ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน) ไข่แดง เห็ด และผลิตภัณฑ์จากนม ที่เสริมวิตามินดี นอกจากนี้ร่างกายยังสามารถสร้างวิตามินดีได้เองเมื่อผิวหนังได้รับแสงแดด ในช่วงเช้าหรือเย็น แต่ควรรับแสงแดดอย่างพอเหมาะและหลีกเลี่ยงช่วงแดดจัด

อาการผมร่วงแบบไหนที่ต้องพบแพทย์หรือเภสัชกร

ควรปรึกษาแพทย์เมื่อพบอาการต่อไปนี้:

  1. ผมร่วงเยอะมากผิดปกติทันทีทันใด
  2. มีอาการคันหรือระคายเคืองหนังศีรษะ
  3. มีผื่น หรือแผลที่หนังศีรษะ
  4. ผมร่วงร่วมกับอาการผิดปกติอื่นๆ

วิธีป้องกันผมร่วงในระยะยาว

แนวทางการป้องกันปัญหาผมร่วงที่ได้ประสิทธิภาพ

1. ดูแลสุขภาพองค์รวม

  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
    การออกกำลังกายสม่ำเสมอจะช่วยกระตุ้น การไหลเวียนของเลือดไปที่หนังศีรษะ ทำให้รากผมได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยลดความเครียด ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของผมร่วง แนะนำให้ออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น วิ่ง ว่ายน้ำ หรือปั่นจักรยาน อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด
  • รับประทานอาหารครบ 5 หมู่
    เนื่องจาก ผมต้องการสารอาหารที่หลากหลายในการเจริญเติบโต โดยเฉพาะโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ไข่ และถั่ว ธาตุเหล็กจากผักใบเขียว วิตามินซีจากผลไม้ที่ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก วิตามินบีจากธัญพืช และไบโอตินจากไข่แดง การขาดสารอาหารเหล่านี้อาจส่งผลให้ผมบาง ผมแห้ง และร่วงง่าย การรับประทานอาหารให้ครบถ้วนจึงช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง จากภายในสู่ภายนอก
  • พักผ่อนให้เพียงพอ

เพราะขณะนอนหลับ ร่างกายจะซ่อมแซม เซลล์ กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม และปรับสมดุลฮอร์โมน ลดระดับฮอร์โมนความเครียด (Cortisol) ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของผมร่วง ควรนอนวันละ 7-9 ชั่วโมง เข้านอนเป็นเวลา หลีกเลี่ยงหน้าจอ และคาเฟอีนก่อนนอน เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟู และเสริมสุขภาพเส้นผมให้แข็งแรง

2. ดูแลเส้นผมอย่างถูกวิธี

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับสภาพเส้นผม
    ควรเลือกผลิตภัณฑ์แชมพูที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพเส้นผม หลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนจัด นอกจากนี้ควรเลือกผลิตภัณฑ์บำรุงผมที่มีส่วนผสม ของสารอาหารที่จำเป็น เช่น วิตามินบี โปรตีน และไบโอติน หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อน จากเครื่องจัดแต่งทรงผมบ่อยเกินไป และใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องผมจากความร้อนทุกครั้ง ก่อนจัดแต่งทรงผม
  • หวีผมอย่างนุ่มนวล
    ควรเริ่มจากการหวีผมที่ปลายก่อนค่อยๆ ไล่ขึ้นไปที่โคนผม หลีกเลี่ยงการหวีผมแรงๆ หรือกระชากผม โดยเฉพาะเมื่อผมเปียก เพราะเส้นผมจะเปราะบางมากกว่าปกติ ควรใช้หวีที่เหมาะสม เช่น หวีซี่ห่างสำหรับผมที่พันกัน และหวีซี่ถี่สำหรับการจัดแต่งทรง รวมถึงทำความสะอาดหวีสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกที่อาจระคายเคืองหนังศีรษะ
  • สระผมให้สะอาดทุกวัน

การสระผมเป็นประจำช่วยขจัดสิ่งสกปรก น้ำมันส่วนเกิน และสารตกค้างที่อาจทำให้ หนังศีรษะอุดตันและเกิดปัญหาผมร่วง หลีกเลี่ยงการใช้แชมพูที่มีสารซัลเฟตหรือพาราเบนซึ่งอาจทำให้ผมแห้งเสีย ขณะสระผม ควรนวดหนังศีรษะเบา ๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และหลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อน ที่อาจทำให้เส้นผมสูญเสียความชุ่มชื้น

3. จัดการความเครียด

  • ฝึกสมาธิ
  • ทำกิจกรรมผ่อนคลาย
  • หางานอดิเรกที่ชอบ

สรุป

การแก้ปัญหาผมร่วงต้องเริ่มจากการหาสาเหตุที่แท้จริง และแก้ไขอย่างเป็นระบบ ทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการดูแลสุขภาพองค์รวม หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีความกังวล ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนการปรึกษาแพทย์ได้ หากมีอาการรุนแรงควรพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม

หากต้องการปรึกษาเภสัชเพื่อรับคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพ แอดเลยที่นี่ Watsons Pharmacist

คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ

Previous

โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อราเกิดจากอะไร มารู้สาเหตุ อาการ และการรักษากัน

Next

ยาทาแผลในปาก คืออะไร ยาทาปากแก้ร้อนในมีกี่ประเภท

Related Topics
Share
WHAT’S HOT
  1. 10 ร้านเสื้อผ้าในไอจีราคาถูก หลักร้อย ไม่ตกเทรนด์
  2. 12 สกินแคร์จาก CICA ส่วนผสมช่วยลดสิว ผิวระคายเคือง
  3. 10 สถานที่ขอพรเรื่องความรัก ช่วยคนโสดไม่ให้นก
  4. 15 ครีมบำรุงผิวขาว และครีมทาผิวขาวยี่ห้อไหนดี 2025
  5. แต่งหน้าเป๊ะปังด้วยเมคอัพ ชิ้นที่สอง1บาท
  6. ยาทาแผลในปาก คืออะไร ยาทาปากแก้ร้อนในมีกี่ประเภท
  7. ผมร่วงเยอะมากเกิดจากอะไร มารู้สาเหตุ และวิธีแก้ผมร่วงกัน
  8. โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อราเกิดจากอะไร มารู้สาเหตุ อาการ และการรักษากัน
  9. แพ้เหงื่อตัวเอง โรคแพ้เหงื่อ มีอาการและวิธีดูแลรักษาอย่างไร
  10. หูอื้อข้างเดียวไม่หาย หูอื้อบ่อย แก้ยังไงให้ไม่กวนใจ
  11. ท้องเสียห้ามกินอะไร คนท้องเสียควรกินอะไรบ้าง
*/?>