โหลดแอปฯ
ดาวน์โหลด:
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอปวัตสัน
  • google-play.png
  • app-store.png
  • app-gallery.png
ค้นหาร้านค้า บทความน่าอ่าน
Watsons Services
0
ตะกร้า
Share

แผลในปากเกิดจากอะไร ยาทาแผลในปาก คืออะไร ยาทาปากแก้ร้อนในมีกี่ประเภท พร้อมวิธีการใช้ยาป้ายปากให้ได้ผลดีที่สุด บทความนี้มีคำตอบ

ยาทาแผลในปาก คืออะไร ยาทาปากแก้ร้อนในมีกี่ประเภท

แผลในปากเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยและสร้างความรำคาญให้กับผู้ป่วย ทำให้รับประทานอาหารลำบาก พูดคุยไม่สะดวก และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต ยาทาแผลในปากจึงเป็นทางเลือกสำคัญในการบรรเทาอาการเจ็บปวด แสบร้อน และช่วยเร่งการหายของแผล ปัจจุบันมียาทาแผลในปากหลากหลายประเภททั้งในรูปแบบเจล ของเหลว สเปรย์ แผ่นแปะ และขี้ผึ้งซึ่งมีส่วนผสมและกลไกการออกฤทธิ์แตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์ในการรักษา 

แผลในปากคืออะไร

แผลในปาก เป็นแผลเปื่อยที่เกิดขึ้นบริเวณเยื่อบุภายในช่องปาก เช่น กระพุ้งแก้ม เหงือก ลิ้น เพดานปาก หรือริมฝีปากด้านใน มักมีลักษณะเป็นแผลกลมหรือรี มีสีขาวหรือเหลืองตรงกลางและขอบแดง ทำให้รู้สึกเจ็บ แสบ ร้อน โดยเฉพาะเมื่อรับประทานอาหารรสจัดหรืออาหารแข็ง สาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น การบาดเจ็บจากการกัดหรือแปรงฟันแรงเกินไป ความเครียด การขาดวิตามิน ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือการติดเชื้อ

แผลในปากมีกี่ประเภท

แผลในปากมีกี่ประเภท?

แผลในปากสามารถแบ่งได้เป็นหลายประเภทตามสาเหตุและลักษณะอาการ ได้แก่ แผลร้อนใน (Aphthous ulcers) ซึ่งเป็นแผลที่พบบ่อยที่สุด มีลักษณะเป็นแผลกลมสีขาวหรือเหลืองล้อมรอบด้วยขอบสีแดง เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุช่องปากจากภูมิคุ้มกันผิดปกติหรือความเครียด แผลเริม (Herpes simplex) ที่เกิดจากไวรัสเฮอร์ปีส์ มักเริ่มด้วยตุ่มน้ำใสก่อนแตกเป็นแผล แผลจากการบาดเจ็บ เช่น กัดกระพุ้งแก้ม หรือเสียดสีจากฟันปลอม และแผลที่เกิดจากการติดเชื้อรา (Candidiasis) ที่มีลักษณะเป็นฝ้าขาวคล้ายนมบูด

ร้อนในหรือแผลในปากเกิดจากอะไร

ร้อนในหรือแผลในปากเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการบาดเจ็บในช่องปาก เช่น การแปรงฟันแรงเกินไป การกัดกระพุ้งแก้มโดยไม่ตั้งใจ หรือการรับประทานอาหารร้อนจัด นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือเชื้อรา ภาวะเครียดและการพักผ่อนไม่เพียงพอก็เป็นปัจจัยสำคัญ รวมถึงการขาดวิตามินและแร่ธาตุบางชนิด โดยเฉพาะวิตามินบี12 และธาตุเหล็ก ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอก็มีความเสี่ยงสูงในการเกิดแผลในปากได้บ่อยครั้ง

ประเภทของยาทาแผลในปากที่มีในท้องตลาด

ประเภทของยาทาแผลในปากที่มีในท้องตลาด

1. ยาทาแผลในปากชนิดเจล

ยาทาปากแก้ร้อนใน ชนิดเจลเป็นที่นิยมเพราะ:

  • เนื้อเจลเกาะติดแผลได้ดี
  • ออกฤทธิ์นาน
  • ใช้งานสะดวก
  • มักมีส่วนผสมของยาชาเฉพาะที่

2. ยาน้ำสำหรับป้ายปาก

คุณสมบัติเด่นของ ยาป้ายปาก ชนิดน้ำ:

  • ซึมเข้าสู่แผลได้รวดเร็ว
  • กระจายตัวทั่วบริเวณที่เป็นแผล
  • เหมาะสำหรับแผลที่มีขนาดใหญ่

3. ยาทาแผลในปากแบบขี้ผึ้ง

ข้อดีของ ยาทาแผลในปาก ชนิดขี้ผึ้ง:

  • ให้การปกป้องแผลได้นาน
  • เหมาะกับแผลที่ต้องการการปกป้อง
  • มักผสมสารสมานแผล
  • ทนต่อน้ำลายได้ดี

สารออกฤทธิ์ที่มักพบในยาทาแผลในปาก

1. สารสมานแผล

  • โซเดียมไฮยาลูโรเนต
  • อัลลันโทอิน
  • วิตามินบี 12

2.สารลดการอักเสบ

  • ไตรแอมซิโนโลน
  • เบนซิดามีน

3.สารต้านเชื้อ

  • คลอเฮกซิดีน
  • โพวิโดนไอโอดีน

วิธีการใช้ยาทาแผลในปากให้ได้ผลดีที่สุด

1.การเตรียมก่อนใช้ยา

เริ่มจากการล้างมือให้สะอาด จากนั้นบ้วนปากด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำเกลือ เพื่อกำจัดเศษอาหารและสิ่งสกปรก ทำการเช็ดบริเวณที่เป็นแผลให้แห้งด้วยสำลีสะอาดหรือผ้าก๊อซเพื่อลดความชื้นและเศษอาหารที่อาจตกค้าง

2.ขั้นตอนการทายา

ใช้ไม้พันสำลีหรือนิ้วที่สะอาดจุ่มยาในปริมาณที่พอเหมาะ แล้วทาบางๆ ให้ทั่วบริเวณที่เป็นแผล หลังทายาไม่ควรกลืนน้ำลายทันที ควรรอประมาณ 3-5 นาที เพื่อให้ยาออกฤทธิ์ได้เต็มที่

3.ข้อควรปฏิบัติหลังทายา

  • งดอาหารและเครื่องดื่ม 30 นาที
    ข้อควรปฏิบัติหลังทายาแผลในปาก ควรงดอาหารและเครื่องดื่มอย่างน้อย 30 นาที เพื่อให้ยาได้ออกฤทธิ์อย่างเต็มที่ หลีกเลี่ยงการบ้วนปากทันทีหลังทายา ระหว่างวันควรดื่มน้ำให้เพียงพอแต่หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มร้อนจัด เย็นจัดและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ งดอาหารรสจัด เผ็ด เปรี้ยว เค็ม และอาหารแข็งที่อาจกระทบแผล เพื่อไม่ให้ระคายเคืองบริเวณที่เป็นแผล
  • หลีกเลี่ยงการแตะต้องบริเวณที่ทายา
  • ทายาซ้ำตามเวลาที่กำหนด

ข้อควรระวังในการใช้ยาทาแผลในปาก

  • อ่านฉลากและวิธีใช้ให้ละเอียด
  • ห้ามใช้ยาหมดอายุ
  • เก็บให้พ้นมือเด็ก
  • หยุดใช้ทันทีเมื่อมีอาการแพ้

มีแผลร้อนในแบบไหนควรไปพบแพทย์ ?

ควรพบแพทย์เมื่อแผลร้อนในมีขนาดใหญ่เกิน 1 เซนติเมตร มีหลายแผลในปากพร้อมกัน แผลไม่หายภายใน 2 สัปดาห์ มีอาการปวดรุนแรงจนรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำไม่ได้ มีไข้สูงร่วมด้วย มีต่อมน้ำเหลืองที่คอโต หรือมีแผลร้อนในเกิดขึ้นบ่อยกว่า 3-4 ครั้งต่อปี เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณของโรคทางระบบภูมิคุ้มกัน โรคทางเลือด หรือการติดเชื้อที่รุนแรงกว่าแผลร้อนในทั่วไป

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับยาทาแผลในปาก

1.ยาทาแผลในปาก มีผลข้างเคียงหรือไม่

ยาทาแผลในปากอาจมีผลข้างเคียงได้ในบางราย แม้จะพบไม่บ่อย ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ อาการแสบร้อนชั่วคราวขณะทายา รู้สึกชาบริเวณที่ทา เกิดการระคายเคืองเพิ่มขึ้น หรืออาการแพ้ซึ่งอาจแสดงอาการเป็นผื่นแดง คัน หรือบวม หากใช้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์เป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อราในช่องปาก และในกรณีที่กลืนยาปริมาณมากอาจส่งผลต่อระบบย่อยอาหารได้

2.สามารถใช้ ยาทาแผลในปากในระยะยาวได้หรือไม่

โดยทั่วไปไม่แนะนำให้ใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เนื่องจากอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองและเปลี่ยนแปลงสมดุลในช่องปาก บางชนิดอาจมีส่วนผสมของสเตียรอยด์ซึ่งไม่ควรใช้ต่อเนื่องเกิน 7-10 วัน หากแผลในปากไม่หายภายใน 2 สัปดาห์หรือกลับมาเป็นซ้ำบ่อยครั้ง ควรพบแพทย์หรือทันตแพทย์เพื่อตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาที่เหมาะสม

3.ยาทาแผลในปาก เหมาะสำหรับเด็กหรือไม่

ควรพิจารณาเลือกใช้ด้วยความระมัดระวังสำหรับเด็กเล็กต่ำกว่า 2 ปี ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนใช้ยาทาแผลในปาก และต้องมีผู้ปกครองดูแลขณะใช้เพื่อป้องกันการกลืนยา

4.แผลในปากกับแผลร้อนใน: แตกต่างกันอย่างไร

แผลในปากกับแผลร้อนใน แม้มักถูกเรียกสลับกันไปมา แต่มีความแตกต่างกัน แผลร้อนใน หรือ แอฟทัส (Aphthous ulcer) เป็นแผลที่เกิดจากการอักเสบของเยื่อบุช่องปาก มักมีลักษณะเป็นแผลกลมหรือรี มีขอบนูนสีแดง ตรงกลางเป็นหลุมสีขาวหรือเหลือง พบได้บริเวณกระพุ้งแก้ม ลิ้น เหงือก และเพดานอ่อน ส่วนแผลในปากอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การบาดเจ็บ การติดเชื้อเริม หรือเชื้อรา รวมถึงโรคทางระบบต่างๆ

สรุป

ยาทาแผลในปาก มีหลายประเภทให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับอาการและความรุนแรงของแผล การเลือกใช้ ยาป้ายปาก ที่เหมาะสมและการใช้อย่างถูกวิธีจะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น ลดอาการปวดแสบปวดร้อน และป้องกันการติดเชื้อได้ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ ยาทาปากแก้ร้อนใน ควรปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์เพื่อการรักษาที่เหมาะสม

หมายเหตุ: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ไม่สามารถใช้แทนคำแนะนำจากแพทย์หรือเภสัชกรได้ กรุณาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนใช้ยา

คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ

Previous

ผมร่วงเยอะมากเกิดจากอะไร มารู้สาเหตุ และวิธีแก้ผมร่วงกัน

Next

ท้องเสียห้ามกินอะไร คนท้องเสียควรกินอะไรบ้าง

Related Topics
Share
WHAT’S HOT
  1. 10 ร้านเสื้อผ้าในไอจีราคาถูก หลักร้อย ไม่ตกเทรนด์
  2. 12 สกินแคร์จาก CICA ส่วนผสมช่วยลดสิว ผิวระคายเคือง
  3. 10 สถานที่ขอพรเรื่องความรัก ช่วยคนโสดไม่ให้นก
  4. 15 ครีมบำรุงผิวขาว และครีมทาผิวขาวยี่ห้อไหนดี 2025
  5. แต่งหน้าเป๊ะปังด้วยเมคอัพ ชิ้นที่สอง1บาท
  6. ยาทาแผลในปาก คืออะไร ยาทาปากแก้ร้อนในมีกี่ประเภท
  7. ผมร่วงเยอะมากเกิดจากอะไร มารู้สาเหตุ และวิธีแก้ผมร่วงกัน
  8. โรคผิวหนังอักเสบจากเชื้อราเกิดจากอะไร มารู้สาเหตุ อาการ และการรักษากัน
  9. แพ้เหงื่อตัวเอง โรคแพ้เหงื่อ มีอาการและวิธีดูแลรักษาอย่างไร
  10. หูอื้อข้างเดียวไม่หาย หูอื้อบ่อย แก้ยังไงให้ไม่กวนใจ
  11. ท้องเสียห้ามกินอะไร คนท้องเสียควรกินอะไรบ้าง
*/?>