ปัจจุบันเรื่องการชะลอวัย หรือ Anti-aging เป็นเรื่องที่หลายคนเริ่มให้ความสำคัญไม่แพ้การมีสุขภาพที่แข็งแรง เพราะการมีผิวพรรณที่ดูอ่อนกว่าวัย อายุหน้าไม่นำไกลไปกว่าอายุจริงจะช่วยสร้างความมั่นใจ และบุคลิกที่ดีให้เราได้เป็นอย่างมาก ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์ชะลอวัยส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกว่า 80% นอกเหนือจากการพักผ่อน และการออกกำลังกาย คือเรื่องอาหารบำรุงผิวพรรณ เพราะเมื่อร่างกายเราที่ประกอบด้วยโปรตีนจำนวนหมื่นแสนกว่าชนิด มาเจอกับสารความแก่ที่เรากินเข้าไป จะทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อกัน ส่งผลให้เกิดอนุมูลอิสระ (Free Radicle) ที่ทำให้เซลล์ร่างกายเสียหายเสื่อมโทรม แก่ตัว และดูสูงวัยมากขึ้น รู้แบบนี้แล้ว วัตสันจึงอยากชวนสาว ๆ ที่ไม่อยากมีผิวแก่ก่อนวัยมาศึกษาเรื่องทริคการกินอาหารบำรุงผิว ตัวช่วยในการชะลอวัยที่ควรเสริม และอาหารที่เป็นสารความแก่ที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อการบำรุงผิวพรรณ กับ 5 เคล็ดลับการกิน ดังนี้!
1. น้ำตาล คือ ยาพิษควรหลีกเลี่ยงเพื่อการบำรุง
น้ำตาล คือ สารความแก่ หรือ ศัตรูแห่งความอ่อนเยาว์หมายเลขหนึ่ง เพราะเมื่อเรากินแป้ง/น้ำตาลเข้าไปในปริมาณที่เกินความเหมาะสม มันจะหลุดไปเกาะโปรตีนที่เรามีในร่างกายทำให้โปรตีนสลาย เมื่อโปรตีนสลายความเหี่ยวย่น และร่องลึกก็จะมา สังเกตได้จากคนที่มีน้ำตาลในร่างกายมากกว่าปกติ เช่น คนที่เป็นเบาหวานที่ส่วนใหญ่จะมีหน้าตาที่ไม่เต่งตึงเมื่อเทียบกับคนทั่วไป นอกจากนี้ “ผลไม้” ที่เรามั่นใจว่า คือ อาหารบำรุงผิวแน่ ๆ ก็ยังต้องระมัดระวังมากในการกิน ควรเลือกชนิดที่มีกากใยสูง และแบ่งทานในปริมาณที่น้อยมาก ๆ ต่อวัน โดยนับรวมเข้าไปในหมวดการบริโภคน้ำตาลที่ควรทานไม่เกิน 6 ช้อนชาต่อวันเช่นกัน เพราะผลไม้ส่วนใหญ่มักมีรสหวานให้น้ำตาลไม่ต่างจากน้ำตาลทรายปกติ โดยเฉพาะทุเรียน มะม่วง หรือ สัปปะรด ซึ่งทริคสำหรับการทานสัปปะรด หากสาว ๆ ทนไม่ไหวอยากทานจริง ๆ ให้เลือกทานที่บริเวณแกนแทนบริเวณเนื้อ เพราะจะมีไฟเบอร์เยอะในบริเวณนั้น ซึ่งจะช่วยในการบำรุงผิวพรรณดูดเอาน้ำตาลจากร่างกายเรากลับออกไป
2. จัดลำดับการกินอาหารเพื่อบำรุงผิวพรรณ
ใครจะรู้ว่าการเรียงลำดับการกินอาหาร ก็สำคัญไม่แพ้การรู้เรื่องอาหารบำรุงผิวที่ควรกิน หรือควรหลีกเลี่ยงเลย โดยนักโภชนาการจากประเทศญี่ปุ่นท่านหนึ่งได้แนะนำว่าในการกินข้าวแต่ละมื้อ เราควรเริ่มทานผักก่อน จากนั้นค่อยตามด้วยเนื้อสัตว์ หรือโปรตีน แล้วค่อยกินข้าวซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตตามทีหลัง เนื่องจากหากเรารับประทานข้าวที่มีความสามารถในการเปลี่ยนเป็นน้ำตาลเข้าสู่กระแสเลือดได้อย่างรวดเร็วเป็นอย่างแรก จะทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น ซึ่งกว่าจะรู้สึกอิ่ม ก็อาจพบว่าตัวเองเผลอกินเจ้าน้ำตาลตัวร้ายเข้าไปในปริมาณมากแล้ว แต่หากเราเลือกกินผักเพื่อบำรุงผิวพรรณ และโปรตีนที่มีสารอาหารที่จำเป็นก่อน จะทำให้ร่างกายรับรู้ความอิ่มได้เร็ว เมื่อร่างกายอิ่มแล้วก็จะทำให้กินข้าวได้น้อยลงเอง ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายเราสร้างสารความแก่มาทำร้ายร่างกายได้น้อยลงตามมา
3. บำรุงผิวพรรณด้วยการกินน้อย
อาหารบำรุงผิวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน หรือโปรตีนที่แปรเปลี่ยนไปเป็นคอลลาเจนได้ ใช่ว่ากินในปริมาณมาก ๆ เกินพลังงานที่ร่างกายควรได้รับต่อวันแล้วจะถือว่าดีเสมอไป เพราะหากเรายิ่งกินเยอะร่างกายก็ต้องใช้พลังงานในการเผาผลาญเยอะทำให้ออกซิเจนในร่างกายเกิดการออกซิไดซ์ (oxidize) หรือเรียกง่าย ๆ ว่าทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่จะทำให้เราแก่ ดังนั้น การอดบ้างกินบ้าง เช่นการทำ IF (Intermittent Fasting) หรือ บำรุงผิวพรรณด้วยการอดอาหารเพื่อความเยาว์วัย คือ จัดช่วงการกินอาหารให้ชัดเจนในเวลา 1 วัน แบ่งเป็นช่วงอด (Fasting) และช่วงกิน (Feeding) โดยรูปแบบที่นิยมใช้ คือ 16/8 หมายถึง อดอาหาร 16 ชม. รวมถึงเวลานอนด้วย และกินอาหารได้ในช่วงเวลา 8 ชม. ซึ่งสาว ๆ สามารถปรับเปลี่ยนช่วงเวลาการกินอาหารเพื่อบำรุงผิวให้เหมาะสมกับกิจวัตรประจำวันได้เลย โดยวิธีนี้จะช่วยเสริมกลไกในการชะลอวัย บำรุงผิวพรรณ และลดการอักเสบของร่างกายได้ดีขึ้น หรือ หากยังเว้นช่วงการกินไม่ได้ อาจลดปริมาณอาหารในบางมื้อลง เช่น มื้อเย็น ก็จะให้ร่างกายทำงานน้อยลงทำให้โกรธฮอร์โมน (Growth Hormone) หรือ ฮอร์โมนแห่งความเด็กหลั่งไปซ่อมแซมผิว บำรุงผิวพรรณและร่างกายได้ดีขึ้น ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และดูเด็กลงอย่างเห็นได้ชัด
4. กินผักให้หลากหลายเป็นอาหารบำรุงผิวผิวพรรณ
อาหารบำรุงผิวราคาเป็นมิตรอย่างพืชผักทั้งหลาย โดยเฉพาะผักใบเขียว จะมีฤทธิ์เป็นด่าง ซึ่งช่วยในการลดความเป็นกรดในร่างกายของเรา เนื่องจากทุกกิจกรรมที่เราทำ ล้วนทำให้เกิดกรดในร่างกายทั้งสิ้น ดังนั้น เราจึงต้องการด่างเข้ามากลบ ไม่ให้กรดในร่างกายสูงเกินไป เพราะร่างกายในสภาวะที่สมดุลนั้นดีที่สุด โดยนอกจากผักจะเป็นอาหารบำรุงผิว มีฤทธิ์เป็นด่าง อุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และมีกากใยอาหารแล้ว ในผักสี ๆ ทั้งหลายจะมีสารอาหารเสริมที่บำรุงผิวพรรณมานอกเหนือจากสารอาหารหลัก 5 หมู่ที่เราคุ้นชิน ช่วยเป็นสารแอนตี้ออกซิแดน (Antioxidant) หรือสารต้านแก่ สู้กับอนุมูลอิสระที่ทำให้เซลล์เราแก่ขึ้นอีกทางด้วย เช่น มะเขือเทศมีสีแดงก็จะมีสารอาหารบำรุงผิวพรรณพิเศษที่ชื่อว่าไลโคปีน (Lycopene) หรือชาเขียวที่มีสารคาเทชิน (Catechin) บำรุงผิวพรรณ และถั่วเหลืองที่มีสารไอโซฟลาโวน (Isoflavone) บำรุงผิวพรรณ เป็นต้น อย่างไรก็ตามการกินผัก ก็ควรกินให้ได้หลากหลายชนิด หลายสี วันละ 5-6 อุ้งมือ ขึ้นไป หรือหากใครไม่ชอบกินผัก แต่ก็ยังอยากบำรุงผิวพรรณให้อ่อนกว่าวัยก็อาจใช้ตัวช่วยเสริม อย่างการซื้ออาหารบำรุงผิวไลโคปีนแบบเม็ด หรือ อาหารบำรุงผิวไอโซฟลาโวนแบบเม็ด ของแบรนด์ไฮ-บาลานซ์ ที่มีวางขายอยู่ที่วัตสันมาทานเสริมก็ได้นะคะ
5. น้ำ อาหารบำรุงผิวพรรณที่สำคัญ และอยู่ใกล้ตัวที่สุด
น้ำ เป็นสุดยอดอาหารบำรุงผิวพรรณชั้นดีที่หลาย ๆ คนมองข้าม และอยู่ในพีรามิดอาหารชะลอวัย (Anti-Aging Food Pyramid) ส่วนฐานซึ่งคือส่วนที่สำคัญที่สุด และช่วยบำรุงผิวพรรณได้ดีที่สุด อย่างที่กล่าวไปว่าทุกครั้งที่เราใช้พลังงาน ร่างกายจะเกิดกรดขึ้น ดังนั้นการดื่มน้ำ โดยเฉพาะแร่ (น้ำด่าง) จะช่วยเสริมให้ร่างกายเกิดความสมดุล บำรุงผิวพรรณ รวมถึงกักเก็บความชุ่มชื่นในผิวให้ดูอิ่มฟู โดยหากสาว ๆ มีเวลา สามารถเลือกซื้อน้ำแร่มาบำรุงผิวพรรณได้ในชีวิตประจำวันได้ก็ควรเลือกดื่มให้มากขึ้น ทั้งนี้ สำหรับการนับปริมาณน้ำที่ควรดื่มแบบง่ายที่สุด คือ ดื่มตามปริมาณพลังงาน หรือแคลอรีที่ควรได้รับต่อวันเลย เช่น ถ้าเราต้องการ 1,250 Kcal. ก็ให้เราดื่มน้ำ 1.25 ลิตร ถ้าเราต้องการ 2,000 Kcal. เราก็ดื่ม 2 ลิตร เป็นต้น
หากมาสังเกตกันจริงๆ การปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากเลยใช่มั้ยคะ เพราะทุกอย่างเป็นสิ่งที่เราสามารถบังคับตัวเองให้เลี่ยงและทำได้ อีกทั้งอาหารบำรุงผิวพรรณต่าง ๆ ก็หาได้รอบตัวเราทั้งนั้น ขอเพียงแค่นำเคล็ดลับจาก “วัตสัน” ไปใช้จริงอย่างต่อเนื่องเท่านั้น ทุกคนก็จะดูหนุ่มดูสาวอย่างธรรมชาติได้ง่ายๆ อ่อนวัยจากภายในร่างกายลึกถึงระดับเซลล์กันไปเลย