ดวงตาของเราบ่งบอกอะไรได้มากมายเกี่ยวกับตัวเรา อาจเป็นสภาพจิตใจหรืออายุ ไม่ว่าใครย่อมทราบดีอยู่แล้วว่าทั้งอาการรอยคล้ำใต้ดวงตาและอาการตาบวมเป็นเรื่องที่สาว ๆ เกือบทุกคนจะรู้สึกกังวลใจมากที่สุดเมื่อมีอะไรเกิดขึ้นกับดวงตา อีกทั้งผิวรอบดวงตาเป็นส่วนที่บอบบางและอ่อนไหวมาก สาว ๆ ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมือโปรต่างจำเป็นต้องให้การดูแลเป็นพิเศษ บางคนอาจคิดว่าการใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาราคาแพง ๆ อาจช่วยรักษาได้ แต่ไม่จริงเลยค่ะ เรามาดูข้อผิดพลาดทั่วไป 4 ข้อที่สาว ๆ บางคนอาจเผลอทำไปแล้วกันค่ะ!
นวดครีมบำรุงรอบดวงตาแรงเกินไป
สาว ๆ บางคนคงต้องการกำจัดรอยคล้ำใต้ตาหรือตาบวมม๊ากมาก อาจคิดว่าถ้าทาครีมบำรุงรอบดวงตาแรง ๆ จะช่วยทำให้ผิวดูดซับครีมได้ดียิ่งขึ้น พึงทราบเลยค่ะสาว ๆ ว่า ผิวรอบดวงตาเป็นบริเวณที่บอบบางมากสุด ๆ ยิ่งทาแรงเท่าไหร่ ก็จะยิ่งทำให้โอกาสที่จะรักษาผิวน้อยลงยิ่งขึ้นเท่านั้น แล้วจะแก้ไขเรื่องนี้ได้อย่างไร สาว ๆ สามารถใช้ก้านสำลีแต้มครีมบำรุงรอบดวงตาบริเวณทารอบดวงตาอย่างอ่อนโยน
ทาตามลำดับที่ผิด
ครีมบำรุงรอบดวงตาก็เหมือนกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิวบริเวณอื่น ๆ คือ ต้องทาตามลำดับที่ถูกต้องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เมื่อพูดถึงขั้นตอนกิจวัตรการดูแลผิว ลำดับการทาที่ถูกต้องเป็นเรื่องที่สำคัญ โดยควรทาครีมที่มีเนื้อหนาที่สุดก่อนแล้วไล่ไปเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุดเป็นครีมที่มีเนื้อบางเบาที่สุด ฉะนั้นแล้ว สาว ๆ ควรทาครีมบำรุงรอบดวงตาตามลำดับประเภทเนื้อครีมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ทาบ้างเป็นครั้งคราว
มีสุภาษิตหนึ่งที่ควรระลึกไว้ว่า “กันไว้ดีกว่าแก้” สาว ๆ ส่วนใหญ่จะเริ่มใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาก็ต่อเมื่อเจอริ้วรอยหรือรอยย่นบริเวณดวงตาเท่านั้น จุดประสงค์ของการทาครีมบำรุงรอบดวงตา คือ การทำให้ผิวใต้ดวงตาชุ่มชื้นเพื่อป้องกันสัญญาณแห่งวัย แน่นอนว่ายังไม่สายเกินไปหากสาว ๆ จะใช้เมื่อพบสัญญาณบางอย่าง ก็จะสามารถลดริ้วรอย รอยย่น รอยคล้ำใต้ตาหรืออาการบวมได้
ทาแค่ช่วงกลางคืน
สาว ๆ ส่วนใหญ่เชื่อว่าควรทาครีมบำรุงรอบดวงตาก่อนเข้านอนเท่านั้น แต่ความเชื่อนี้ก็ไม่ค่อยถูกต้องนัก ครีมบำรุงรอบดวงตาก็เหมือนกับมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เราควรทาทั้งช่วงเช้าและก่อนนอนเพื่อให้คงประสิทธิภาพตลอดทั้งวัน
การใช้ครีมบำรุงรอบดวงตามีความสำคัญอย่างไร
ผิวรอบดวงตาเป็นบริเวณที่บอบบางและอาจเสียหายได้ง่าย การใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้บริเวณรอบดวงตาไม่เกิดริ้วรอยหรืออาการบวม โดยช่วยชะลอการเกิดสัญญาณแห่งริ้วรอยและทำให้ผิวใต้ตาเกิดความกระชับและเรียบเนียนยิ่งขึ้น
- โทนเนอร์คืออะไร จำเป็นไหม และใช้ตอนไหนดี
- 10 ลายเล็บเจลขับผิว ช่วยให้นิ้วขาว มือดูสวยผ่อง
- โพรไบโอติกส์ (Probiotics) และพรีไบโอติกส์ (Prebiotics) คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร
- เหตุผลที่คุณควรเลือกมาส์กชีทที่พัฒนาสูตรโดยแพทย์ผิวหนังเกาหลี
- 20 ไอเดียทรงผมคนหน้ากลมอ้วนช่วยพรางหน้าให้เรียวเล็ก