โหลดแอปฯ
ดาวน์โหลด:
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอปวัตสัน
  • google-play.png
  • app-store.png
  • app-gallery.png
ค้นหาร้านค้า บทความน่าอ่าน
Watsons Services
0
ตะกร้า
Share

หลายคนอาจจะคิดว่าสิวคือศัตรูที่ร้ายที่สุดสำหรับใบหน้าของคุณ แต่มีสิ่งหนึ่งที่อาจจะอยู่บนใบหน้าของคุณไปได้หลายเดือนซึ่งเลวร้ายมากกว่า นั่นก็คือ สิวข้าวสาร แล้วเราจะจัดการกับสิวข้าวสารนี้อย่างไร? ต่อไปนี้คือเคล็ดลับที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ ลองตามไปดูกันได้เลย

สิวข้าวสารคืออะไร?

สิวข้าวสาร หรือที่เรียกว่า จุดน้ำนม (milk spot) หรือ เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมัน ปรากฏเป็นเม็ดเล็ก ๆ สีเหลืองและขาว ซึ่งมักจะพบรอบ ๆ ดวงตาเนื่องจากคนส่วนใหญ่จะใช้อายครีมที่ให้ความชุ่มชื้นสูง นอกจากดวงตาแล้ว สิวข้าวสารยังสามารถพบได้บริเวณรอบ ๆ จมูกด้วย

สาเหตุของสิวข้าวสาร

การดูแลผิวคือชีวิตของผู้หญิง แต่สาเหตุที่สำคัญที่สุดของปัญหาการเกิดสิวข้าวสารคือการดูแลผิวมากเกินไป เมื่อผิวของคุณไม่สามารถดูดซึมสารอาหารที่มากเกินไปจากผลิตภัณฑ์ได้ น้ำมันจะยังคงอยู่ในหนังกำพร้าและเกิดเป็นเม็ดน้ำมัน ไม่เพียงแค่เพราะการดูแลผิวมากเกินไปเท่านั้น 

การขาดการทำความสะอาดคืออีกสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวข้าวสาร หลายคนอาจใช้คลีนซิ่งลบเครื่องสำอางแต่ไม่ได้ใช้คลีนเซอร์อีกรอบ ฉะนั้นต้องล้างด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าด้วยเพื่อให้มั่นใจว่าผิวของคุณสะอาดหมดจด

สิวหิน คืออะไร?

สิวหินถึงแม้ว่าจะมีลักษณะคล้ายกับสิวข้าวสาร แต่มีสาเหตุการเกิดแตกต่างกัน สิวหินเกิดจากเนื้องอกของท่อเหงื่อที่ไม่ใช่เนื้อร้าย เป็นเพียงตุ่มเนื้อนูนแข็งขนาดเล็กมีสีขาวขุ่นหรือสีเหลืองเท่านั้น และเป็นสิวที่ไม่มีอาการเจ็บหรือคัน แต่อาจจะสร้างความรำคาญให้เราในบางครั้ง มักจะเกิดในบริเวณรอบดวงตา อย่างใต้ตาและเปลือกตาเป็นส่วนใหญ่ 

สาเหตุของสิวหิน

สำหรับสาเหตุของการเกิดสิวหิน ยังไม่มีสาเหตุแน่ชัด แต่ในเรื่องจำนวนของสิวหินที่เกิดขึ้น ปกติแล้วจะเป็นผลมาจากพันธุกรรมและอายุที่เพิ่มขึ้น

สิวหิน คืออะไร ต่างกับสิวข้าวสารหรือไม่

สิวข้าวสารและสิวหินเป็นสิวที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่อย่างไรก็ตาม สิวข้าวสารและสิวหินไม่ใช่สิวเดียวกัน และมีสาเหตุที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งสิวหินเกิดจากเนื้องอกของท่อเหงื่อที่ไม่ใช่เนื้อร้าย แต่เป็นเพียงตุ่มเนื้อนูนแข็งขนาดเล็กมีสีขาวขุ่นหรือสีเหลือง ส่วนสิวข้าวสาร เป็นสิวเม็ดเล็ก ๆ ตื้นและแข็ง สีขาวคล้ายไข่มุกหรือเม็ดข้าวสาร

บริเวณที่มักเกิด สิวข้าวสาร

สิวหัวข้าวสาร สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกส่วนของร่างกาย โดยบริเวณที่พบได้บ่อยในคนส่วนใหญ่ มีดังนี้

  • สิวหัวข้าวสารที่เปลือกตา
  • สิวหัวข้าวสารใต้ตา
  • สิวหัวข้าวสารที่หน้าผาก
สิวข้าวสารสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกส่วนของร่างกาย

10 วิธีป้องกันสิวข้าวสาร

1. รักษาความสะอาดผิวของคุณ

ขั้นตอนพื้นฐานในการทำความสะอาดผิวของคุณอย่างลงลึกคือการล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและตอนกลางคืน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนประกอบของบวบจะสามารถช่วยทำให้ผิวที่ตายแล้วอ่อนนุ่มลงและทำให้รูขุมขนเรียบ แต่จะต้องใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อปรับแก้ปัญหาต่างๆของผิว 

ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นสูง เช่น น้ำนมทำความสะอาด (cleansing milk) ไม่เหมาะสำหรับฤดูร้อน ถ้าหากคุณมีผิวมัน คุณไม่จำเป็นต้องเพิ่มจำนวนครั้งในการล้างหน้า เพราะจะทำให้ผิวแห้งเกินไป และในที่สุดก็จะมีการผลิตน้ำมันมากขึ้น

2. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ให้ความชุ่มชื้นสูง

ไม่เพียงแค่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ให้ความชุ่มชื้นสูงเท่านั้นที่ทำให้เกิดเครื่องสำอางที่มีซิลิโคนจะไปขัดขวางการหลั่งไขผิวหนังตามปกติ กระตุ้นให้เกิดสิวข้าวสาร แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสูตรน้ำ และลองไม่ใช้เครื่องสำอางหนักๆที่อาจจะทำให้เกิดจุดน้ำนม (milk spot) ในฤดูร้อน

3. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง

อาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ช็อคโกแลต ข้าวขาว น้ำอัดลม ขนมอบ และอื่นๆ จะเพิ่มโอกาสของการเกิด อาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูงเป็นสาเหตุของการเกิดสิวข้าวสาร อาหารเหล่านี้ทำให้มีการหลั่งอินซูลินและฮอร์โมนเพศชายอย่างรวดเร็วในร่างกาย ดังนั้นการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมันๆสามารถป้องกันสิวข้าวสารได้ ลองรับประทานอาหารเบาๆและดีต่อสุขภาพ รับประทานผลไม้และผักมากขึ้นเพื่อการขับสารพิษในร่างกายของคุณ

4. ให้ความสำคัญกับสมดุลน้ำและน้ำมัน

การให้ความสำคัญกับสมดุลน้ำมันและน้ำสามารถช่วยป้องกันเม็ดน้ำนม (milk spot) ได้ ผิวที่แห้งจะกระตุ้นการหลั่งน้ำมันมากขึ้นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว สร้างไขผิวหนัง สิ่งสกปรก การขับสารพิษที่สะสมในผิวหนัง และไม่สามารถขับออกมาได้ผ่านรูขุมขน ส่งผลให้เกิดสิวและจุดดำ

5. การขัดผิวเป็นประจำ

การขัดผิวเป็นประจำทำให้รูขุมขนเปิดและป้องกันการเกิดขึ้นของสิวข้าวสาร แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เช่น AHA/BHA กรดซาลิไซลิต/องค์ประกอบกรด ที่ช่วยในการลอกขี้ไคลและสามารถทะลุเข้าไปในรูขุมขน การดูแลผิวด้วยขัดผิวไม่สามารถทำได้บ่อยครั้ง เพราะจะทำให้แผ่นไขผิวหนังเสียหาย และภูมิคุ้มกันของผิวจะลดลง แนะนำให้ขัดผิวสัปดาห์ละครั้ง

สิวข้าวสารสามารถเกิดบริเวณหน้าผากได้

6. หลีกเลี่ยงการใช้โลชั่นหรือออยล์บนใบหน้า

นอกจากโลชั่นและออยล์ ที่มีเนื้อเข้มข้นและมีน้ำมันมากจะเพิ่มความมันบนใบหน้าแล้ว น้ำมันจากผลิตภัณฑ์อาจเข้าไปอุดตันตามรูขุมขนจนเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดสิวเม็ดข้าวสารได้ จึงควรเลี่ยงการใช้โลชั่นและออยล์บนใบหน้า เพื่อไม่ก่อให้เกิดการอุดตันและเป็นสิวข้าวสารตามมาได้

7. ใช้โทนเนอร์หรือเซรั่มที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว

โทนเนอร์ที่มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิว อย่างเช่น AHA หรือ BHA จะทำให้สิวเม็ดข้าวสาร หรือสิวข้าวสารหลุดได้เร็วขึ้น และถ้าจะให้ดีควรเลือกโทนเนอร์ที่มีคุณสมบัติควบคุมความมันส่วนเกิน ลดการสะสมของแบคทีเรียเกิดสิว นอกจากจะช่วยลดโอกาสการเกิดสิวซ้ำซ้อนแล้ว ยังช่วยบำรุงให้ผิวแข็งแรงยิ่งขึ้นด้วย

8. ใช้ยา หรือพบแพทย์เพื่อกำจัดสิวข้าวสาร

สำหรับคนที่มีปัญหาสิวข้าวสาร สามารถใช้ยามิโนไซคลีน เพื่อรักษาสิวเม็ดข้าวสาร ชนิดแบนราบ แต่หากเป็นสิวเม็ดข้าวสาร นานเกิน 3 เดือน หรือมีเม็ดสิวข้าวสารจำนวนมาก ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาอย่างถูกวิธี เช่น จี้ออกด้วยไฟฟ้า หรือเลเซอร์ เป็นต้น

9. หลีกเลี่ยงการนำมือไปสัมผัสผิวหน้า

มือของเราใช้หยิบจับอะไรมากมายในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ ธนบัตร แก้วน้ำ หรือเสื้อผ้า มือจึงเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคที่เกาะติดมาที่มือและเล็บ การนำมือไปสัมผัสผิวหน้า เลยเป็นสาเหตุหนึ่งที่ให้เกิดสิวข้าวสารขึ้นได้ การเลี่ยงนำมือไปสัมผ้สผิวหน้าจึงเป็นการป้องกันการเกิดสิวข้าวสารได้ดีที่สุด

10. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยให้มีการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนในผิวเพิ่มมากขึ้น และยังช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งอาจช่วยลดโอกาสในการเกิดสิวข้าวสารได้ด้วย

 สิวข้าวสารเป็นสิวเม็ดเล็ก ตื้นและแข็ง สีขาวคล้ายไข่มุกหรือเม็ดข้าวสาร

สิวข้าวสารจะหายได้แบบถาวรหรือไม่?

สิวข้าวสารจะหายได้แบบถาวรหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุและปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดสิวข้าวสาร โดยทั่วไปแล้ว สิวข้าวสารมักจะหายไปเมื่อมีการดูแลผิวหน้าอย่างถูกต้องและใช้วิธีการรักษาที่เหมาะสม เมื่อมีปัญหาสิวข้าวสาร ลองหาสเหตุการเกิสิวข้าวสาร แล้วจึงบำรุงรักษสิวข้าวสารจากกสาเหตุนั้น

สิวเม็ดข้าวสาร ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดรุนแรง แต่ก็สามารถสร้างความรำคาญ และอาจจะสร้างความไม่มั่นใจให้กับเราได้ จึงควรดูแลผิวหน้าเป็นประจำ และรักษสิวข้าวสารอย่างถูกวิธี เพื่อให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียนไร้สิวเหมือนเดิม ส่วนใครที่อยากได้สกินแคร์บำรุงผิว รักษาสิว ก็สามารถตามไปช้อปที่วัตสันกันได้ด้วย มีผลิตภัณฑ์เหมาะสำหรับคนเป็นสิวให้เลือกมากมายเลย

ข้อมูลอ้างอิง

สิวเม็ดข้าวสาร หรือ สิวข้าวสาร มีวิธีสังเกตและรักษาอย่างไร ? https://www.eucerin.co.th/skin-concerns/acne-prone-skin/milia#:~:text=สิวข้าวสาร%20หรือสิวเม็ดข้าวสาร%20เกิดจากเส้นใยเครา,คงอยู่นานหลายเดือนhttps://skinx.app/content/acne/milia

สิวเม็ดข้าวสาร ใช่สิวจริงๆ หรือเป็นซีสต์กันแน่? https://skinx.app/content/acne/milia

สิวข้าวสาร (Milia) ไม่ใช่สิวหิน! เผยข้อมูลที่หลายคนเข้าใจผิด https://www.bioderma.co.th/your-skin/combination-oily-acne-prone-skin/milia

คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ

Previous

ชาร์โคล ดำดีมีประโยชน์

Next

ฟิตไม่หยุด! 5 ท่ากระชับสัดส่วน

Related Topics
Share
WHAT’S HOT
  1. 10 ร้านเสื้อผ้าในไอจีราคาถูก หลักร้อย ไม่ตกเทรนด์
  2. 12 สกินแคร์จาก CICA ส่วนผสมช่วยลดสิว ผิวระคายเคือง
  3. 10 สถานที่ขอพรเรื่องความรัก ช่วยคนโสดไม่ให้นก
  4. 15 ครีมบำรุงผิวขาว และครีมทาผิวขาวยี่ห้อไหนดี 2024
  5. แต่งหน้าเป๊ะปังด้วยเมคอัพ ชิ้นที่สอง1บาท
  6. 20 ไอเดียทรงผมคนหน้ากลมอ้วนช่วยพรางหน้าให้เรียวเล็ก
  7. รีวิว needly toner pad โทนเนอร์แพดผิวใสทั้ง 4 สูตร
  8. เหตุผลที่คุณควรเลือกมาส์กชีทที่พัฒนาสูตรโดยแพทย์ผิวหนังเกาหลี
  9. 10 ลายเล็บเจลขับผิว ช่วยให้นิ้วขาว มือดูสวยผ่อง
  10. โพรไบโอติกส์ (Probiotics) และพรีไบโอติกส์ (Prebiotics) คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร
  11. โทนเนอร์คืออะไร จำเป็นไหม และใช้ตอนไหนดี
*/?>