ทราบหรือไม่ “ผิวแห้ง” ไม่เหมือนกับ “ผิวขาดน้ำ” จริง ๆ แล้ว ผิวขาดน้ำจะไม่ใช่ความแห้งกร้าน แล้วจะแก้ปัญหาผิวสองแบบนี้ได้อย่างไร ต่อไปนี้เป็นเรื่องที่สาวผิวแห้งและผิวขาดน้ำต้องรู้เอาไว้เลยค่ะ ตามมาหาคำตอบกันจ้า
ผิวแห้งกับผิวขาดน้ำต่างกันอย่างไร
ผิวแห้ง เป็นประเภทผิวที่ผลิตน้ำมัน/ไขผิวหนังน้อยกว่าผิวธรรมดา ผิวแห้งจะไม่มีไขมันสะสมในการกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวและสร้างเกราะป้องกันผิวที่แข็งแรง
ผิวขาดน้ำ คือสภาพผิวที่ขาดความชุ่มชื้น ไม่ใช่น้ำมันที่เกิดจากปัจจัยภายนอกหลายอย่าง เช่น สภาพอากาศ สิ่งแวดล้อม อาหาร และการบริโภคคาเฟอีน ไม่ใช่แค่ผิวแห้งเท่านั้นที่จะมีผิวขาดน้ำเท่านั้น แต่ผิวมันและผิวผสมยังอาจมีผิวที่ขาดน้ำได้เช่นกัน
ความแตกต่างระหว่างผิวแห้ง และผิวขาดน้ำ มีดังนี้
ลักษณะของผิวแห้ง
- หยาบ
- แห้ง
- ลอกเป็นขุย
ลักษณะของผิวขาดน้ำ
- หมองคล้ำ
- แข็ง
- หยาบ
- แพ้ง่าย
- ริ้วรอย
- ผิวหย่อนคล้อย
- รอยย่นลึก
สาวผิวแห้งและผิวขาดน้ำควรทำอย่างไร
การรักษาวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี การทานอาหารที่มีสมดุลและการดูแลผิวประจำวันที่เหมาะสมจะช่วยให้มีผิวที่ฉ่ำ เปล่งปลั่งและป้องกันไม่ให้มีผิวที่แห้งและขาดน้ำได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้น
นอกจากนี้ ยังสามารถทามอยเจอร์ไรเซอร์ หรือ เซรั่มกรดไฮยาลูโรนิค เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว
สำหรับผิวแห้งและผิวขาดน้ำ ขอแนะนำให้ขัดผิวสัปดาห์ละครั้งเพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกเพื่อให้ดูดซึมมอยส์เจอไรเซอร์ได้ดีขึ้น อย่าลืมหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่มีส่วนผสมรุนแรงและการขัดผิวมากเกินไป การแช่น้ำ/อาบน้ำอุ่นจัดเป็นเวลานานอาจทำให้ผิวแห้งและขาดน้ำได้เช่นกัน
การทาครีมกันแดดเป็นประจำสามารถปกป้องผิวจากรังสียูวีที่เป็นอันตรายและหลีกเลี่ยงผิวที่ขาดน้ำได้ด้วย
อีกทั้ง ยังควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งจะทำให้ร่างกายขาดน้ำ
เครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความร้อนส่วนกลางจะทำให้ผิวแห้ง โดยสามารถใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศเพื่อเพิ่มความชื้นภายในอาคารได้