หลายคนอาจจะคิดว่าสิวคือศัตรูที่ร้ายที่สุดสำหรับใบหน้าของคุณ แต่มีสิ่งหนึ่งที่อาจจะอยู่บนใบหน้าของคุณไปได้หลายเดือนซึ่งเลวร้ายมากกว่า นั่นก็คือ สิวข้าวสาร แล้วเราจะจัดการกับสิวข้าวสารนี้อย่างไร? ต่อไปนี้คือเคล็ดลับที่คุณสามารถนำไปใช้ได้ ลองตามไปดูกันได้เลย
สิวข้าวสารคืออะไร?
สิวข้าวสาร หรือที่เรียกว่า จุดน้ำนม (milk spot) หรือ เกิดจากการอุดตันของต่อมไขมัน ปรากฏเป็นเม็ดเล็ก ๆ สีเหลืองและขาว ซึ่งมักจะพบรอบ ๆ ดวงตาเนื่องจากคนส่วนใหญ่จะใช้อายครีมที่ให้ความชุ่มชื้นสูง นอกจากดวงตาแล้ว สิวข้าวสารยังสามารถพบได้บริเวณรอบ ๆ จมูกด้วย
สาเหตุของสิวข้าวสาร
การดูแลผิวคือชีวิตของผู้หญิง แต่สาเหตุที่สำคัญที่สุดของปัญหาการเกิดสิวข้าวสารคือการดูแลผิวมากเกินไป เมื่อผิวของคุณไม่สามารถดูดซึมสารอาหารที่มากเกินไปจากผลิตภัณฑ์ได้ น้ำมันจะยังคงอยู่ในหนังกำพร้าและเกิดเป็นเม็ดน้ำมัน ไม่เพียงแค่เพราะการดูแลผิวมากเกินไปเท่านั้น
การขาดการทำความสะอาดคืออีกสาเหตุหนึ่งของการเกิดสิวข้าวสาร หลายคนอาจใช้คลีนซิ่งลบเครื่องสำอางแต่ไม่ได้ใช้คลีนเซอร์อีกรอบ ฉะนั้นต้องล้างด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าด้วยเพื่อให้มั่นใจว่าผิวของคุณสะอาดหมดจด
สิวหิน คืออะไร?
สิวหินถึงแม้ว่าจะมีลักษณะคล้ายกับสิวข้าวสาร แต่มีสาเหตุการเกิดแตกต่างกัน สิวหินเกิดจากเนื้องอกของท่อเหงื่อที่ไม่ใช่เนื้อร้าย เป็นเพียงตุ่มเนื้อนูนแข็งขนาดเล็กมีสีขาวขุ่นหรือสีเหลืองเท่านั้น และเป็นสิวที่ไม่มีอาการเจ็บหรือคัน แต่อาจจะสร้างความรำคาญให้เราในบางครั้ง มักจะเกิดในบริเวณรอบดวงตา อย่างใต้ตาและเปลือกตาเป็นส่วนใหญ่
สาเหตุของสิวหิน
สำหรับสาเหตุของการเกิดสิวหิน ยังไม่มีสาเหตุแน่ชัด แต่ในเรื่องจำนวนของสิวหินที่เกิดขึ้น ปกติแล้วจะเป็นผลมาจากพันธุกรรมและอายุที่เพิ่มขึ้น
สิวหิน คืออะไร ต่างกับสิวข้าวสารหรือไม่
สิวข้าวสารและสิวหินเป็นสิวที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน แต่อย่างไรก็ตาม สิวข้าวสารและสิวหินไม่ใช่สิวเดียวกัน และมีสาเหตุที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งสิวหินเกิดจากเนื้องอกของท่อเหงื่อที่ไม่ใช่เนื้อร้าย แต่เป็นเพียงตุ่มเนื้อนูนแข็งขนาดเล็กมีสีขาวขุ่นหรือสีเหลือง ส่วนสิวข้าวสาร เป็นสิวเม็ดเล็ก ๆ ตื้นและแข็ง สีขาวคล้ายไข่มุกหรือเม็ดข้าวสาร
บริเวณที่มักเกิด สิวข้าวสาร
สิวหัวข้าวสาร สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกส่วนของร่างกาย โดยบริเวณที่พบได้บ่อยในคนส่วนใหญ่ มีดังนี้
- สิวหัวข้าวสารที่เปลือกตา
- สิวหัวข้าวสารใต้ตา
- สิวหัวข้าวสารที่หน้าผาก
10 วิธีป้องกันสิวข้าวสาร
1. รักษาความสะอาดผิวของคุณ
ขั้นตอนพื้นฐานในการทำความสะอาดผิวของคุณอย่างลงลึกคือการล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ในตอนเช้าและตอนกลางคืน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนประกอบของบวบจะสามารถช่วยทำให้ผิวที่ตายแล้วอ่อนนุ่มลงและทำให้รูขุมขนเรียบ แต่จะต้องใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อปรับแก้ปัญหาต่างๆของผิว
ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นสูง เช่น น้ำนมทำความสะอาด (cleansing milk) ไม่เหมาะสำหรับฤดูร้อน ถ้าหากคุณมีผิวมัน คุณไม่จำเป็นต้องเพิ่มจำนวนครั้งในการล้างหน้า เพราะจะทำให้ผิวแห้งเกินไป และในที่สุดก็จะมีการผลิตน้ำมันมากขึ้น
2. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ให้ความชุ่มชื้นสูง
ไม่เพียงแค่ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ให้ความชุ่มชื้นสูงเท่านั้นที่ทำให้เกิดเครื่องสำอางที่มีซิลิโคนจะไปขัดขวางการหลั่งไขผิวหนังตามปกติ กระตุ้นให้เกิดสิวข้าวสาร แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสูตรน้ำ และลองไม่ใช้เครื่องสำอางหนักๆที่อาจจะทำให้เกิดจุดน้ำนม (milk spot) ในฤดูร้อน
3. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง
อาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ช็อคโกแลต ข้าวขาว น้ำอัดลม ขนมอบ และอื่นๆ จะเพิ่มโอกาสของการเกิด อาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูงเป็นสาเหตุของการเกิดสิวข้าวสาร อาหารเหล่านี้ทำให้มีการหลั่งอินซูลินและฮอร์โมนเพศชายอย่างรวดเร็วในร่างกาย ดังนั้นการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารมันๆสามารถป้องกันสิวข้าวสารได้ ลองรับประทานอาหารเบาๆและดีต่อสุขภาพ รับประทานผลไม้และผักมากขึ้นเพื่อการขับสารพิษในร่างกายของคุณ
4. ให้ความสำคัญกับสมดุลน้ำและน้ำมัน
การให้ความสำคัญกับสมดุลน้ำมันและน้ำสามารถช่วยป้องกันเม็ดน้ำนม (milk spot) ได้ ผิวที่แห้งจะกระตุ้นการหลั่งน้ำมันมากขึ้นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว สร้างไขผิวหนัง สิ่งสกปรก การขับสารพิษที่สะสมในผิวหนัง และไม่สามารถขับออกมาได้ผ่านรูขุมขน ส่งผลให้เกิดสิวและจุดดำ
5. การขัดผิวเป็นประจำ
การขัดผิวเป็นประจำทำให้รูขุมขนเปิดและป้องกันการเกิดขึ้นของสิวข้าวสาร แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว เช่น AHA/BHA กรดซาลิไซลิต/องค์ประกอบกรด ที่ช่วยในการลอกขี้ไคลและสามารถทะลุเข้าไปในรูขุมขน การดูแลผิวด้วยขัดผิวไม่สามารถทำได้บ่อยครั้ง เพราะจะทำให้แผ่นไขผิวหนังเสียหาย และภูมิคุ้มกันของผิวจะลดลง แนะนำให้ขัดผิวสัปดาห์ละครั้ง
6. หลีกเลี่ยงการใช้โลชั่นหรือออยล์บนใบหน้า
นอกจากโลชั่นและออยล์ ที่มีเนื้อเข้มข้นและมีน้ำมันมากจะเพิ่มความมันบนใบหน้าแล้ว น้ำมันจากผลิตภัณฑ์อาจเข้าไปอุดตันตามรูขุมขนจนเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดสิวเม็ดข้าวสารได้ จึงควรเลี่ยงการใช้โลชั่นและออยล์บนใบหน้า เพื่อไม่ก่อให้เกิดการอุดตันและเป็นสิวข้าวสารตามมาได้
7. ใช้โทนเนอร์หรือเซรั่มที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว
โทนเนอร์ที่มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิว อย่างเช่น AHA หรือ BHA จะทำให้สิวเม็ดข้าวสาร หรือสิวข้าวสารหลุดได้เร็วขึ้น และถ้าจะให้ดีควรเลือกโทนเนอร์ที่มีคุณสมบัติควบคุมความมันส่วนเกิน ลดการสะสมของแบคทีเรียเกิดสิว นอกจากจะช่วยลดโอกาสการเกิดสิวซ้ำซ้อนแล้ว ยังช่วยบำรุงให้ผิวแข็งแรงยิ่งขึ้นด้วย
8. ใช้ยา หรือพบแพทย์เพื่อกำจัดสิวข้าวสาร
สำหรับคนที่มีปัญหาสิวข้าวสาร สามารถใช้ยามิโนไซคลีน เพื่อรักษาสิวเม็ดข้าวสาร ชนิดแบนราบ แต่หากเป็นสิวเม็ดข้าวสาร นานเกิน 3 เดือน หรือมีเม็ดสิวข้าวสารจำนวนมาก ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาอย่างถูกวิธี เช่น จี้ออกด้วยไฟฟ้า หรือเลเซอร์ เป็นต้น
9. หลีกเลี่ยงการนำมือไปสัมผัสผิวหน้า
มือของเราใช้หยิบจับอะไรมากมายในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ ธนบัตร แก้วน้ำ หรือเสื้อผ้า มือจึงเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคที่เกาะติดมาที่มือและเล็บ การนำมือไปสัมผัสผิวหน้า เลยเป็นสาเหตุหนึ่งที่ให้เกิดสิวข้าวสารขึ้นได้ การเลี่ยงนำมือไปสัมผ้สผิวหน้าจึงเป็นการป้องกันการเกิดสิวข้าวสารได้ดีที่สุด
10. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยให้มีการไหลเวียนของเลือดและออกซิเจนในผิวเพิ่มมากขึ้น และยังช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้ร่างกายสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งอาจช่วยลดโอกาสในการเกิดสิวข้าวสารได้ด้วย
สิวข้าวสารจะหายได้แบบถาวรหรือไม่?
สิวข้าวสารจะหายได้แบบถาวรหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุและปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดสิวข้าวสาร โดยทั่วไปแล้ว สิวข้าวสารมักจะหายไปเมื่อมีการดูแลผิวหน้าอย่างถูกต้องและใช้วิธีการรักษาที่เหมาะสม เมื่อมีปัญหาสิวข้าวสาร ลองหาสเหตุการเกิสิวข้าวสาร แล้วจึงบำรุงรักษสิวข้าวสารจากกสาเหตุนั้น
สิวเม็ดข้าวสาร ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ก่อให้เกิดอาการเจ็บปวดรุนแรง แต่ก็สามารถสร้างความรำคาญ และอาจจะสร้างความไม่มั่นใจให้กับเราได้ จึงควรดูแลผิวหน้าเป็นประจำ และรักษสิวข้าวสารอย่างถูกวิธี เพื่อให้ผิวหน้ากลับมาเรียบเนียนไร้สิวเหมือนเดิม ส่วนใครที่อยากได้สกินแคร์บำรุงผิว รักษาสิว ก็สามารถตามไปช้อปที่วัตสันกันได้ด้วย มีผลิตภัณฑ์เหมาะสำหรับคนเป็นสิวให้เลือกมากมายเลย
ข้อมูลอ้างอิง
สิวเม็ดข้าวสาร หรือ สิวข้าวสาร มีวิธีสังเกตและรักษาอย่างไร ? https://www.eucerin.co.th/skin-concerns/acne-prone-skin/milia#:~:text=สิวข้าวสาร%20หรือสิวเม็ดข้าวสาร%20เกิดจากเส้นใยเครา,คงอยู่นานหลายเดือนhttps://skinx.app/content/acne/milia
สิวเม็ดข้าวสาร ใช่สิวจริงๆ หรือเป็นซีสต์กันแน่? https://skinx.app/content/acne/milia
สิวข้าวสาร (Milia) ไม่ใช่สิวหิน! เผยข้อมูลที่หลายคนเข้าใจผิด https://www.bioderma.co.th/your-skin/combination-oily-acne-prone-skin/milia
คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ