เพื่อน ๆ เคยมั้ยลองใช้สกินแคร์ลดความมันบนใบหน้า แต่กลับทำให้ผิวเสียและแย่ลงกว่าเดิม แต่พอเปลี่ยนมาใช้สกินแคร์สำหรับผิวแห้ง ผิวเริ่มกลับมาดีขึ้น สำหรับใครที่เคยมีปัญหาผิวแบบนี้ คาดว่าเพื่อน ๆ อาจจะกำลังประสบปัญหาผิวขาดน้ำอยู่ก็ได้นะ ซึ่งปัญหาผิวขาดน้ำ ไม่เหมือนกับผิวแห้งทั่วแห้งทั่วไป และมีวิธีการดูแลที่ต่างกันด้วย
สิ่งสำคัญที่ควรเลี่ยงเลยก็คือสกินแคร์จำพวกลดความมัน และเปลี่ยนมาใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมัน หรือมอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมัน แพ้ง่าย จะดีกว่า บทความนี้เลยอยากพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับผิวมันขาดน้ำ และมอยเจอร์ไรเซอร์ (moisturizer) ไอเทมฟื้นฟูผิวขาดน้ำ พร้อมกับแนะนำ 10 มอยเจอร์ไรเซอร์ให้เพื่อน ๆ ได้ตามไปลองใช้ในบทความนี้ด้วย
สาเหตุของการเกิดผิวมันขาดน้ำ
- อุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศ
- การนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ
- การดื่มน้ำไม่เพียงพอ
- การอาบน้ำร้อนเกินไป
- การใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ไม่เหมาะสม
ลักษณะของผิวมันขาดน้ำ
- คันผิวหนัง
- ผิวแพ้ง่าย
- ผิวอักเสบ
- สภาวะผิวแห้ง (ไม่ใช่ประเภทของสภาพผิว)
- เมื่อสัมผัสแล้วรู้สึกขรุขะ
วิธีการรักษาสมดุลผิว
1. หลีกเลี่ยงคาเฟอีนและแอลกอฮอล์
ทั้งคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ ทั้ง 2 อย่างนี้เรียกได้ว่าเป็นเครื่องดื่มตัวร้าย ที่ทำให้ผิวมันขาดน้ำเป็นหนักยิ่งขึ้น เพราะคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ จะทำปฏิกิริยาทำให้ร่างกายขับปัสสาวะ ส่งผลให้น้ำในร่างกายลดลง และอาจไม่เพียงพอในการหล่อเลี้ยงร่างกายรวมไปถึงผิวพรรณด้วย
2. ใช้เครื่องทำความชื้น เพิ่มความชื้นในอากาศ
เครื่องทำความชื้นจะทำหน้าที่สร้างไอน้ำ และระบายออกสู่อากาศ ทำให้อากาศสมดุลไม่แห้งมากจนเกินไป ส่งผลดีต่อปัญหาผิวมันขาดน้ำด้วยเหมือนกัน
3. เลี่ยงการสครับ ขัดผิว การสครับและขัดผิว
ไม่ค่อยเหมาะกับผิวมันขาดน้ำสักเท่าไร โดยเฉพาะสครับ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีเม็ดบีดส์ ที่ขัดผิวเนื้อแข็งและหยาบ จะทำเป็นการร้ายผิวให้แย่ลงกว่าเดิม แนะนำให้ใช้ไอเทมขัดผิวที่มีความอ่อนโยน ผสมมอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมัน และผิวมันขาดน้ำไปด้วย
4. ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมัน และมอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมันแพ้ง่ายในการดูแลผิว
การใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมัน และมอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมันแพ้ง่าย จะช่วยให้ความชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอก และช่วยรักษาสมดุลของผิวได้ดี
มอยเจอร์ไรเซอร์ (moisturizer)คืออะไร
มอยเจอร์ไรเซอร์ (moisturizer) คือ สารทาภายนอกที่สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังได้ มีอยู่หลายรูปแบบทั้งครีม โลชั่น ขี้ผึ้ง เป็นต้น มอยเจอร์ไรเซอร์จะทำหน้าที่เคลือบผิวเอาไว้ เพื่อลดการสูญเสียน้ำของผิว เมื่อมีการสูญเสียน้ำในผิวน้อยลง ผิวจะมีความชุ่มชื้นมากขึ้น ทำให้ผิวแข็งแรง เต่งตึง เรียบเนียน ลดริ้วรอย ผิวดูสุขภาพดีขึ้นได้ด้วย
ประเภทของมอยเจอร์ไรเซอร์ (moisturizer)
1. มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติ Occlusives ช่วยเคลือบผิว
มอยเจอร์ไรเซอร์ (moisturizer) ประเภทนี้จะช่วยเคลือบผิว ด้วยการสร้างฟิล์มบาง ๆ เคลือบชั้นบนสุดของผิว สามารถกันน้ำได้ด้วย ทำหน้าที่ชะลอการสูญเสียน้ำทางผิวหนัง ยกตัวอย่างสารในกลุ่มนี้คือ ไขคาร์นอบา น้ำมันมะกอก Petrolatum ซิลิโคน ลาโนลิน ซาราไมค์ และกรดไขมัน
2. มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติ Emollients ทำให้ผิวนุ่ม
มอยเจอร์ไรเซอร์ (moisturizer) ประเภทนี้เป็นสารไขมันที่ดูดซึมได้ ช่วยให้ผิวนุ่มและผสานผิวตกสะเก็ด และเซลล์ผิวที่ตาย ช่วยลดการสูญเสียน้ำทางผิวหนัง ยกตัวอย่างสารในกลุ่มนี้คือ เชียบัตเตอร์ สควาเรน คอลลาเจน ไอโซโพรพิล และปามิเตท
3. มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติ Humectants ช่วยผิวฉ่ำน้ำ
มอยเจอร์ไรเซอร์ (moisturizer) ประเภทนี้เป็นสารที่ดูดซับน้ำจากชั้นลึกของหนังกำพร้าให้ขึ้นมาถึงชั้นบน ช่วยให้ความชุ่มชื้นในผิวหนังชึ้นนอกสุด (หนังกำพร้า) และยังช่วยปกป้องผิวจากเชื้อโรค การขาดน้ำ หรือสารเคมี ยกตัวอย่างสารในกลุ่มนี้คือ กลีเซอรีน กรดอัลฟาไฮดรอกซี กรดไฮยาลูรอนิก ซอร์บิทอล และยูเรีย
วิธีเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ (moisturizer)
มอยเจอร์ไรเซอร์ (moisturizer) ที่ดีจึงควรมีคุณสมบัติ ดูดซึมได้ดี ออกฤทธิ์เร็ว และอยู่บนผิวหนังได้นานโดยไม่ต้องทาซ้ำหลายรอบ และทุกสภาพผิวจำเป็นต้องบำรุงด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ เพื่อให้ความชุ่มชื้นและช่วยชะลอริ้วรอยได้ด้วย แต่ควรเลือกที่มีคุณสมบัติเหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง
1. ผิวหน้ามันเป็นสิวง่าย
ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีความน้อย เนื้อบางเบา หรือเนื้อครีมประเภทแห้งเร็ว ซึมเข้าสู่ผิวง่าย มอยส์เจอร์ไรเซอร์ฐานน้ำ (Water-based moisturizer)
2. ผิวหน้าแห้ง
ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ประเภทเนื้อครีมจะมีความเข้มข้นมากกว่าแบบอื่น เพื่อคงความชุ่มชื้นบนผิว และช่วยกักเก็บและป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นของผิวได้ยาวนานยิ่งขึ้น มอยส์เจอร์ไรเซอร์ฐานน้ำมัน (Oil-based moisturizer) ที่มีน้ำมันบำรุงผิวเป็นส่วนประกอบ
3. ผิวปกติ
สามารถเลือกใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ได้ทั้งฐานน้ำและน้ำมัน ใครที่ไม่ชอบความเหนียวเหนอะหนะ อยากได้สัมผัสแห้งเร็วเบาสบายผิว แนะนำแบบฐานน้ำ ส่วนใครต้องการความชุ่มชื้นมาก ๆ สามารถใช้มอยเจอรไรเซอร์ฐานน้ำมันได้
4. ผิวผสม
ควรเลือกมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีอัตราส่วนของน้ำและน้ำมันเท่ากัน เพื่อให้ผิวรับส่วนผสมทั้ง 2 อย่างเท่ากัน ช่วยให้ผิวคงสมดุลของน้ำอยู่เสมอ และไม่แห้งจนเกินไป
แม้ว่าผิวขาดน้ำจะต้องมีการดูแลเป็นพิเศษไปจากสภาพผิวทั่วไป แต่เราสามารถรักษาปัญหาผิวขาดน้ำให้หายได้ด้วยการรักษาจากทั้งภายนอกและภายใน อย่างการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต ไปจนถึงการเลือกใช้สกินแคร์ที่ช่วยเติมเต็มและเก็บกักความชุ่มชื้นให้กับผิว อย่างมอยเจอร์ไรเซอร์นั่นเอง
“10 มอยเจอร์ไรเซอร์ตัวท็อป” ไอเทมเด็ดเติมความชุ่มชื้น ปรับสมดุลเพื่อผิวสวย
1. Aqua+ Series Clear Complexion Daily Moisturizer 50 ml.
มอยเจอไรเซอร์ผิวมันเนื้อบางเบา ช่วยเติมความชุ่มชื่นผิว พร้อมคืนความชุ่มชื่นที่สูญเสียไป ช่วยลดเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น อีกหนึ่งจุดเด่นของมอยเจอร์ไรเซอร์ตัวนี้ คือช่วยดูแลปัญหาผิวที่เกิดจากสิวและความมันให้ดีขึ้นด้วย เป็นมอยเจอไรเซอร์ผิวมันที่เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว โดยเฉพาะผิวมันและเป็นสิว (ปริมาณ 50 ml.)
2. Pure Care Bsc Super Nano White Intensive Moisturizer Serum 30 ml.
มอยเจอไรเซอร์สำหรับผิวมันแพ้ง่าย จุดเด่นของตัวนี้จะมาในรูปแบบเจลแคปซูลทรงกลม จากโพลิเมอร์ธรรมชาติที่ถูกออกแบบมาเพื่อพิทักษ์ผิวโดยเฉพาะ นวัตกรรมล่าสุดแห่งเจลแคปซูล มอยเจอไรเซอร์ผิวมันแพ้ง่าย อัดแน่นด้วยสารอาหารเพื่อดูแลผิวหน้าที่ขาดความชุ่มชื่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ และยังช่วยปรับสมดุลของน้ำในผิวให้ผิวฟู ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย (ปริมาณ 30 ml.)
3. Srichand Skin Moisture Burst Gel Cream 50 ml.
มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวมันมาพร้อมกับเนื้อเจลครีมล็อกผิว มีคุณสมบัติเด่น ๆ ช่วยเพิ่มพลังชุ่มชื่นนาน 72 ชั่วโมง มีเนื้อสัมผัสบางเบา ด้วย Allantoin และ Apple Fruit Extract ที่ช่วยปลอบประโลมผิว และ Glyceryl Glucoside และ Centella Asiatica ช่วยรักษาความชุ่มชื่น ให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ Madecassoside และ Watermelon Fruit Extract ช่วยให้ริ้วรอยเล็ก ๆ แลดูจางลง (ปริมาณ 50 ml.)
4. Real Barrier Intense Moisture Cream 50 ml.
มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวมันแพ้ง่ายและระคายเคือง จุดเด่นคือเป็นสูตร MLE (Multi Lamellar Emulsion) ผสานเซราไมด์ ช่วยเสริมความแข็งแรงของผิวชั้นนอก ให้ผิวคงความชุ่มชื่นได้ยาวนานถึง 48 ชั่วโมง มีไฮยาลูรอนิค และ Ectoin ช่วยคงความชุ่มชื่น Panthenol, Madecassoside และ Allantoin ช่วยปลอบประโลมผิวที่ระคายเคือง (ปริมาณ 50 ml.)
5. Cerave Moisturizing Cream 50 g.
มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวมันที่ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ตัวนี้เป็นมอยเจอไรเซอร์ที่มีคุณสมบัติเด่น คือเป็นสูตรสำหรับผิวที่มีปัญหาแห้ง แดง ไม่สบายผิว หรือผิวที่จำนวนเซราไมด์ลดลงมากกว่าปกติ เป็นสาเหตุของปราการผิวอ่อนแอลง ผสานกับเทคโนโลยี MVE ลิขสิทธิ์เฉพาะของเซราวี ที่จะนำพาเซราไมด์เข้าฟื้นบำรุงผิวอย่างยาวนานและล้ำลึก (ปริมาณ 50 g.)
6. Nature Feels Aloe Vera Moisture Gel 300 g.
มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมัน และยังเหมาะใช้เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ผิวขาดน้ำและมอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมันแพ้ง่าย มีจุดเด่นจากว่านหางจระเข้ออร์แกนิกเข้มข้น ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นแก่ผิวปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วยสารสกัดจากพืชพันธุ์ทั้ง 6 ชนิด ที่ช่วยฟื้นบำรุงให้ผิวแข็งแรง ลดการระคายเคืองจากผื่นคัน ผิวแลดูสุขภาพดี รู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว (ปริมาณ 300 g.)
7. Namu Life Snail White Moisture Soothing Boost Serum 15 ml.
มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมันจากนามุ ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน เปล่งปลั่งสุขภาพดี มีจุดเด่นที่เป็นสูตรพิเศษที่บูสต์ผิวนุ่มอิ่มน้ำ ช่วยฟื้นบำรุงผิวที่เหนื่อยล้าด้วยไฮยาลูรอน ผสานพลัง อควาแคคทีน สารสกัดจากต้นกระบองเพชร และสารสกัดจากเมือกหอยทาก เติมความชุ่มชื้น และคงความอิ่มเอิบฉ่ำน้ำให้ผิวอย่างล้ำลึก ทาให้ผิวแลดูเนียนกระชับ (ปริมาณ 15 ml.)
8. Cute Press Ci-Lab Sensitiv Moisture Repair Barrier Cream 50 g.
มอยเจอไรเซอร์ผิวมันสูตรบำรุงเข้มข้นแต่อ่อนโยนจาก cute press จุดเด่นของตัวนี้เขาพัฒนามาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในเขตร้อนชื้นแบบเราคนไทยเลยโดยเฉพาะ เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมันอุดมด้วยสารบำรุงเพื่อล็อกและเติมความชุ่มชื่นให้ผิว เนื้อครีมเจลเกลี่ยง่าย ซึมซาบไว แตกตัวเป็นน้ำเมื่อเกลี่ยลงบนผิว ให้ผิวรู้สึกสดชื่น และถูกปลอบประโลมอย่างรู้สึกได้ทันทีที่ใช้ (ปริมาณ 50 g.)
9. Curel Aging Care Series Moisture Gel-Cream 40 g.
มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมันเนื้อบางเบา จุดเด่นเป็นสูตรสำหรับผิวขาดเซราไมด์ ที่เป็นสาเหตุหนึ่งของผิวบอบบางแพ้ง่าย และมอยเจอร์ไรเซอร์ตัวนี้ยังเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมันที่ช่วยฟื้นบำรุงรักษาระดับเซราไมด์ในผิว เป็นเกราะปกป้องให้ผิวดูแข็งแรง สุขภาพดีบำรุงผิวแพ้ง่าย พร้อมลดเลือนริ้วรอย ดูจางลง อ่อนโยนแม้รอบดวงตาและริมฝีปาก (ปริมาณ 40 g.)
10. Hada Labo Blemish Oil Control Hydrating Lotion 170 มล.
มอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมันที่ช่วยลดสาเหตุการเกิดสิว ควบคุมความมัน และให้ผิวชุ่มชื่น และจุดเด่นตัวนี้ยังเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ผิวมันเนื้อโลชั่นสูตรใหม่จากญี่ปุ่น อุดมไปด้วยสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยลดสาเหตุการเกิดสิว พร้อมควบคุมความมันส่วนเกิน ปรับสภาพผิวให้สมดุลและชุ่มชื่นพอเหมาะ ผิวจะแข็งแรงขึ้น พร้อมเผชิญกับสภาวะแวดล้อม และรังสียูวี (ปริมาณ 170 มล.)
ตามไปทำความรู้จักกับอาการผิวขาดน้ำ และมอยเจอร์ไรเซอร์ (moisturizer) ไอเทมฟื้นฟูผิวขาดน้ำ พร้อมกับแนะนำ 10 มอยเจอร์ไรเซอร์ตัวท็อปใช้ดีมาแล้ว หวังว่าน่าจะพอช่วยแก้ปัญหาผิวมันขาดน้ำของเพื่อน ๆ ไปได้บ้างน้า แต่ถ้าเกิดว่าใช้มอยเจอไรเซอร์ผิวมัน มอยเจอไรเซอร์ผิวขาดน้ำและมอยเจอไรเซอร์ผิวมันแพ้ง่ายแล้ว ก็ยังไม่ทำให้ผิวเปลี่ยนแปลงดีขึ้น แสดงว่าเพื่อน ๆ อาจจะเป็นคนผิวแห้ง หรือมีปัญหาผิวอย่างอื่นร่วมด้วย ลองพบแพทย์ผิวหนังเพื่อตรวจให้มั่นใจ เพื่อสอบถามวิธีดูแลผิวของเราอย่างเหมาะสมอีกทีด้วยก็ดีเหมือนกันนะ
ข้อมูลจาก เลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์อย่างไร ? ให้เหมาะสมกับผิวหน้า; https://shorturl.asia/8TGK3
👥 เกาะติดโปรโมชั่น พร้อมอัพเดท Lifestyle ที่ Facebook https://www.facebook.com/watsonsthailand
📱 แอปพลิเคชั่น โหลดฟรี! https://watsonsonline.store/apphomepage
💚 แอดไลน์วันนี้ ไม่พลาดทุกโปรโมชั่น! LINE Official Account https://line.me/R/ti/p/@watsonsth?from=page
🌈อัพเดททุกเทรนด์ก่อนใคร ที่ Twitter https://twitter.com/WatsonsThailand
📷 ติดตามเคล็ดลับสุขภาพและความงามที่ Instagram https://www.instagram.com/watsonsth/
💟ส่องเทรนด์มาแรงไปกับเรา https://www.tiktok.com/@watsonsth?lang=th-TH
คลิกอ่านคอนเท้นอื่นๆที่น่าสนใจ
- โทนเนอร์คืออะไร จำเป็นไหม และใช้ตอนไหนดี
- 10 ลายเล็บเจลขับผิว ช่วยให้นิ้วขาว มือดูสวยผ่อง
- โพรไบโอติกส์ (Probiotics) และพรีไบโอติกส์ (Prebiotics) คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร
- เหตุผลที่คุณควรเลือกมาส์กชีทที่พัฒนาสูตรโดยแพทย์ผิวหนังเกาหลี
- 20 ไอเดียทรงผมคนหน้ากลมอ้วนช่วยพรางหน้าให้เรียวเล็ก