Get the App
DOWNLOAD NOW
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอปวัตสัน
  • google-play.png
  • app-store.png
  • app-gallery.png
Find a Store Blog
Watsons Services
0
MY BAG
Share

สาวๆ ทุกคนย่อมอยากจะมีรูปขาที่กระชับได้สัดส่วน ไม่เพียงแต่จะทำให้ดูดีเท่านั้น แต่ช่วงขายังเป็นส่วนสำคัญในร่างกายที่ช่วยสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน อย่างเช่น การนำเสนองานแบบมืออาชีพ นิสัยการเล่นกีฬา การเต้นรำคืนวันศุกร์และอื่น ๆ อีกมากมาย ถ้าหากว่าการไหลเวียนเลือดของขาแย่ ก็จะทำให้ขาไม่แข็งแรงพอที่จะทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดี แล้วเราจะมีขาที่แข็งแรงและกระชับได้สัดส่วนโดยไม่ต้องยุ่งยากอย่างไรล่ะ วัตสันเลยอยากชวนเพื่อน ๆ มากายบริหารท่าลดต้นขา เพื่อขาเรียว กระชับ แข็งแรงกันด้วย 

10 ท่าลดต้นขา ทำง่าย ที่บ้านก็ทำได้

 1. การยกขา

ท่าออกกำลังกายลดต้นขา

วิธีทำ

  • เอนหลังลงบนเตียงโดยวางกระดูกสันหลังลงก่อน
  • จากนั้นให้ยืดขายกขึ้นสูง 90 องศา ตรึงขาไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
  • วางขาลงบนเตียงอย่างช้า ๆ ทำซ้ำเป็นเวลาห้านาที

2. การเต้นแบบนักบัลเล่ต์

การออกกำลังกายลดต้นขาสะโพกแบบนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากนักบัลเล่ต์ มีส่วนช่วยสริมสร้างความแข็งแรงให้ต้นขา ทำให้การไหลเวียนของโลหิตดี อีกทั้งยังเสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับร่างกายอีกด้วย

ออกกำลังกายลดต้นขาท่าบัลเล่ต์

วิธีทำ

  • ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้าแล้ววางเท้าขวาไปด้านหลังโดยส้นเท้าทั้งสองข้างอยู่บนพื้น
  • จากนั้นให้ยกส้นเท้าขึ้นจากพื้นอย่างช้า ๆ ค้างไว้สามวินาที
  • ทำซ้ำ 20 ครั้งด้วยจังหวะเดียวกัน

3. พิลาทิสช่วยกระชับขาให้ได้สัดส่วน

พิลาทิสท่าลดต้นขา

วิธีทำ

  • นอนราบโดยวางแนวกระดูกสันหลังลงบนเตียงก่อน
  • เกร็งกล้ามท้องแล้วยกตั้งเข่าขึ้นมา
  • จากนั้น ใช้แขนยึดขาซ้ายค้างไว้ประมาณ 10-15 วินาที ( ถ้าหากรู้สึกตึงที่ต้นขา แสดงว่ากำลังทำท่าถูกต้องแล้ว )
  • ทำซ้ำขาแต่ละข้างห้าครั้ง

4. การนวดขา

การทำให้ขาดูดีเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมก็มีความสำคัญเท่ากันด้วย ขาของสาวๆ สมควรได้รับการนวดอย่างอ่อนโยนเพื่อปรับปรุงการไหลเวียนโลหิตรวมทั้งกำจัดของเสียและสารพิษ 

ท่านวดลดต้นขา

วิธีทำ

  • โดยวางมือรอบ ๆ ต้นขา ให้หัวแม่มืออยู่ที่หน้าขา
  • ค่อย ๆ บีบนวดขึ้นลงประมาณ 10 ครั้ง แล้วใช้กำปั้นทุบเบา ๆ ให้ทั่วต้นขาอย่างเป็นจังหวะ
  • กดนวดบริเวณข้างกระดูกหน้าแข้งไปจนถึงปลายเท้า 5-10 รอบ
  • หากมีอาการปวดมากให้กดคลึงค้างไว้ 5-10 วินาทีแล้วค่อยปล่อย

5. ท่าสควอท (Squat)

การทำให้ขาดูดีเป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมก็มีความสำคัญเท่ากันด้วย ขาของสาวๆ สมควรได้รับการนวดอย่างอ่อนโยนเพื่อปรับปรุงการไหลเวียนโลหิตรวมทั้งกำจัดของเสียและสารพิษ หลังจากใช้ลูกกลิ้งเท้าในการนวดขาแล้ว ให้ทาน้ำมันมะพร้าวลงบนขาเพื่อทำให้ขาดูดีมากยิ่งขึ้น!

ท่าสควอทออกกำลังกายลดต้นขา

วิธีทำ

  • ยืนตรง กางขาออกกว้างประมาณไหล่ เปิดปลายเท้าออกไปด้านข้างเพียงเล็กน้อย
  • ค่อย ๆ ย่อตัวลงนั่งโดยให้หลังตั้งตรงไม่งอ ดันเอว และก้นไปด้านหลังเหมือนนั่งเก้าอี้กลางอากาศ พยายามอย่าให้หัวเข่าเกินปลายเท้า
  • มองตรงไปข้างหน้า เกร็งหน้าท้องเอาไว้ กลับเข้าสู่ท่ายืน
  • เริ่มแรกอาจจะทำสัก 15 -20 ครั้ง ทั้งหมด 4-5 เซต และควรทำต่อเนื่อง สัปดาห์ล่ะ 3 วัน

6. ท่าลันจ์ถอยหลัง (Back Lunge)

สำหรับท่านี้เป็นอีกหนึ่งท่าออกกำลังกายที่ดีมาก ๆ ในการออกกำลังกายลดต้นขา ช่วยกระชับทั้งกล้ามเนื้อด้นขาด้านหน้า กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง และกล้ามเนื้อด้านนอกบริเวณสะโพก นอกจากนั้นท่าลันจ์ถอยหลัง (Back Lunge) ยังช่วยเป็นท่าที่ช่วยให้ทรงตัวได้ดี ที่สำคัญช่วยให้กระชับต้นขา และช่วยให้มีบุคลิกที่ดีอีกด้วย

ออกกำลังกายลดต้นขาด้วยท่าลันจ์ถอยหลัง

วิธีทำ

  • เริ่มต้นด้วยการยืนแยกขา ห่างประมาณหัวไหล่ มือเท้าเอว
  • ก้าวขาขวาไปด้านหลังยาว ๆ จากนั้นย่อตัวลงจนต้นขาทั้งสองข้างขนานกับพื้น หลังเหยียดตรง
  • กลับสู่กลับสู่ท่าเริ่มต้น นับเป็น 1 ครั้ง ทำสลับข้างไปมา
  • ทำซ้ำ 10-12 ครั้ง 3 เซ็ตในแต่ละขา พัก 15 วินาทีต่อเซต

7. ท่าดองกี้คิกส์ (Donkey kick)

ท่าลดต้นขานี้จะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อสะโพก ก้น และต้นขาให้แข็งแรงขึ้น และยังช่วยกระชับกล้ามเนื้อได้ดี ทั้งกล้ามเนื้อขาและช่วงหน้าท้อง ท่าดองกี้คิกส์ (Donkey kick) นอกจากจะช่วยกระชับต้นขา และยังทำให้หน้าท้องแบนราบขึ้นอีกด้วย

ออกกำลังกายลดต้นขาด้วยท่าดองกี้คิกส์

วิธีทำ

  • เริ่มต้นด้วยการคุกเข่าบนพื้น วางมือทั้งสองข้างบนพื้นให้เป็นแนวเดียวกับเข่า
  • ยกขาขวาขึ้น ให้ต้นขาขนานกับพื้น ในระหว่างนั้นให้เกร็งกล้ามเนื้อก้นไปด้วย ค้างไว้ 5 วินาที
  • กลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำซ้ำ 10 ครั้ง นับเป็น 1 เซต ทำสลับข้าง ข้างละ 3 เซต

8. ท่าเลกลีฟด้านข้าง (Side Leg Lifts)

ท่านี้เป็นท่าลดต้นขาที่สามารถทำได้ง่าย ๆ และยังช่วยลดไขมันบริเวณต้นขาได้ดี ช่วยให้กระชับสะโพก ต้นขา โดยเฉพาะช่วงต้นขาด้านใน และสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่มั่นใจเรื่องขาใหญ่ อยากลดปัญหาขาเบียดแนะนำให้ทำท่านี้เลย

ท่าเลกลีฟด้านข้างลดต้นขา

วิธีทำ

  • นอนตะแคงข้างไปทางขวา โดยวางศรีษะไว้บนแขนขวา ยกต้นขาซ้ายขึ้น และกลับสู่ท่าเตรียม ทำซ้ำ 12 ครั้ง
  • สลับข้าง ทำซ้ำอีก 12 ครั้ง
  • ทำทั้งหมด 5 เซต ในระหว่างเซตพัก 15 วินาที

9. ท่าซูโม่ท่าสควอท จั๊ม (Sumo Squat jump)

ท่าออกกำลังกายลดต้นขาบริหารกล้ามเนื้อส่วนล่าง ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ ออกกำลังกายท่านี้จะได้ทั้งกล้ามเนื้อหลายส่วน เช่น ก้น ขา หลัง น่องสะโพก แผ่นหลัง แกนกลางลำตัว และเอ็นร้อยหวาย นอกจากนั้นยังช่วยเรื่องระบบเผาพลาญให้ทำงานได้ดีอีกด้วย

ท่าซูโม่ท่าสควอท จั๊มออกกำลังกายลดต้นขา

วิธีทำ

  • ยืนแยกเท้าออกด้านข้างประมาณช่วงหัวไหล่ ให้ปลายเท้าชี้ออกไปด้านนอก
  • กระโดดแยกเท้าออกประมาณ 2 ช่วงแขน กุมมือทั้งสองข้างให้อยู่ในระดับหน้าอก จากนั้น ให้ย่อตัวลง จนขาทั้งสองข้างขนานกับพื้น
  • กระโดดขึ้นกลับไปสู่ท่าเริ่มต้น นับเป็น 1 ครั้ง
  • ทำทั้งหมด 15 ครั้ง จำนวน 3 เซต ในระหว่างเซต พัก 20 วินาที

10. ท่าวอลซิท สควอท (Wall Sit Squat)

ท่าสวอทแบบพิงกำแพง เป็นท่าสควอทลดต้นขาอีกแบบหนึ่งที่ช่วยกระชับต้นขาด้านหน้า ด้านหลังให้แข็งแรง สลายเซลล์ลูไลท์ได้ผล และยังช่วยป้องกันเข่าเสื่อมได้อีกด้วย

ท่าลดต้นขาวอลซิท สควอท

วิธีทำ

  • ยืนหันหลังชิดกำแพง แยกปลายเท้าให้กว้างประมาณไหล่ เท้าห่างจากกำแพง 1 ฟุต
  • ค่อยๆ ย่อตัวลงมา ทำมุมให้ได้ 90 องศา ต้นขาต้องขนานกับพื้นคล้ายกับการนั่งเก้าอี้ หลังตั้งตรงไม่งอ
  • ทำท่านี้ค้างเอาไว้ 30 นาที หรือหากเริ่มต้นทำ อาจจะนับ 1-10 ครั้งแล้วยืดตัวขึ้นกลับสู่ท่าเดิม
  • ทำทั้งหมด 3 เซต ใช้เวลา 30 วินาที และ 60 วินาที หลังจากนั้นค่อยเพิ่มขึ้นเป็น 2 นาที

วิธีที่ทำให้การลดต้นขาทำได้ง่ายขึ้น

1. กำหนดโปรแกรมออกกำลังกาย

ลองกำหนดรูปแบบท่าออกกำลังกายสำหรับลดต้นขา เพื่อให้ออกกำลังกายลดขาใหญ่ได้ดี และแก้ปัญหาต้นขาได้ตรงจุดยิ่งขึ้น เราสามารถวางแผนท่าออกกำลังกายลดต้นขาต่าง ๆ ได้ เช่น ออกกำลังกายด้วยการฝึกกล้ามเนื้อ หรือวางโปรแกรมการวิ่ง สลับกับการออกกำลังกายแบบ HIIT เป็นต้น และควรพักร่างกายอย่างน้อย 2 – 3 วันต่อสัปดาห์ เพื่อให้ร่างกายได้พักฟื้นจากการออกกำลังกาย

2. เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคอาหาร

เรื่องของอาหารการกินก็มีส่วนสำคัญที่กำหนดขนาดของต้นขาเราด้วย สำหรับใครที่อยากขาเรียว ควรเลี่ยงน้ำตาล แอลกอฮอล์ ลดการทานคาร์โบไฮเดรตที่เป็นแป้ง เปลี่ยนมาทานคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงาน อย่างเช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ฯลฯ แทน ลองเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหาร พร้อมกับออกกำลังกายลดต้นขาสะโพกควบคู่ไปด้วย อาจช่วยให้การลดไขมันต้นขาและในร่างกายเป็นไปได้เร็วยิ่งขึ้นด้วย

3. พักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ มีส่วนช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้การออกกำลังกายเป็นไปได้ดียิ่งขึ้นด้วย สำหรับใครที่อยากออกกำลังกายลดต้นขาให้ได้ผลดี ลองนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน นอกจากช่วยลดกระชับต้นขา ยังทำให้สุขภาพดียิ่งขึ้นด้วย

ท่าออกกำลังกายลดต้นขา ปั้นขาเรียวสวย

สำหรับท่าออกกำลังกายลดต้นขา ช่วยให้ขาเรียวเหล่านี้ นอกจากช่วยลดต้นขา แก้ปัญหาขาใหญ่ ขาเบียด ให้กลับมาเป็นขาเรียวสวยแล้ว ท่าออกกำลังกายเหล่านี้ ยังช่วยในเรื่องของการเคลื่อนไหว การทรงตัวอีกด้วย ลองกำหนดโปรแกรมออกกำลังกายของตัวเอง ด้วยท่าออกกำลังกายลดต้นขา ที่วัตสันได้นำมาแบ่งปันในบทความนี้ บอกเลยว่าสาว ๆ ได้มีต้นขาเรียว แข็งแรง พร้อมเดินสับแบบมั่นใจกันอย่างแน่นอน

ข้อมูลอ้างอิง
บอกลาต้นขาใหญ่ด้วย 5 ท่าลดต้นขา ทำง่าย ที่บ้านก็ทำได้ https://www.irontec.co/2023/08/16/say-goodbye-to-big-thighs/
สลายไขมันที่ต้นขาให้เรียว เพียวกระชับ https://th.yanhee.net/เกร็ดความรู้/สลายไขมันที่ต้นขาให้เรียว-เพียวกระชับ/
4 ท่าออกกำลังกาย “ลดต้นขา” นอนทำได้ เหมาะกับสาวขี้เกียจสายสลอธ! อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/beauty-tips/laziness-legs-exercise?ref=ct

Previous

หลับง่ายใน 2 นาที

Next

มาเช็คสุขภาพลำไส้กัน

Related Topics
Share
WHAT’S HOT
  1. 10 ร้านเสื้อผ้าในไอจีราคาถูก หลักร้อย ไม่ตกเทรนด์
  2. 12 สกินแคร์จาก CICA ส่วนผสมช่วยลดสิว ผิวระคายเคือง
  3. 10 สถานที่ขอพรเรื่องความรัก ช่วยคนโสดไม่ให้นก
  4. 15 ครีมบำรุงผิวขาว และครีมทาผิวขาวยี่ห้อไหนดี 2024
  5. แต่งหน้าเป๊ะปังด้วยเมคอัพ ชิ้นที่สอง1บาท
  6. 20 ไอเดียทรงผมคนหน้ากลมอ้วนช่วยพรางหน้าให้เรียวเล็ก
  7. รีวิว needly toner pad โทนเนอร์แพดผิวใสทั้ง 4 สูตร
  8. เหตุผลที่คุณควรเลือกมาส์กชีทที่พัฒนาสูตรโดยแพทย์ผิวหนังเกาหลี
  9. 10 ลายเล็บเจลขับผิว ช่วยให้นิ้วขาว มือดูสวยผ่อง
  10. โพรไบโอติกส์ (Probiotics) และพรีไบโอติกส์ (Prebiotics) คืออะไร แตกต่างกันอย่างไร
  11. โทนเนอร์คืออะไร จำเป็นไหม และใช้ตอนไหนดี
*/?>